แบงก์ชาติสวิส แถลงพร้อมอุ้ม “เครดิต สวิส” หลังหุ้นดิ่งวันเดียว 24%

รู้จัก Silicon Valley Bank เจาะสาเหตุ "แบงก์ยักษ์ล้ม"

วิกฤต SVB กระทบไทยแค่หุ้นตก ไม่ซ้ำรอยวิกฤติเศรษฐกิจในอดีต

เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 มี.ค.66) มูลค่าหุ้นของ เครดิต สวิส (Credit Suisse)ร่วงลงไปถึง 24 % ภายในวันเดียว ทำให้สำนักงานกำกับตลลาดการเงินและธนาคารแห่งชาติสวิตเซอร์แลนด์ ออกแถลงการณ์ร่วมกัน เพื่อคลายความวิตกกังวลที่กำลังเกิดขึ้น

โดยในแถลงการณ์ดังกล่าว ทั้งสองหน่วยงาน ยังไม่พบสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงโดยตรงที่แสดงให้เห็นว่าปัญหาจากภาคการธนาคารของสหรัฐฯ ได้ลุกลามมายังสถาบันการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ 

พร้อมทั้งยืนยันว่าบริษัทธนาคาร “เครดิต สวิส” ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เคร่งครัด และหากมีความจำเป็นธนาคารแห่งชาติสวิสพร้อมจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับสถาบันเงินแห่งนี้

ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาเครดิต สวิส ได้เผชิญกับปัญหาด้านเงินทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อปีที่ผ่านมา บริษัทมีผลประกอบการขาดทุนถึง 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 300,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลขาดทุนที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินเมื่อปี 2008

ขณะที่บริษัทลูกด้านการบริหธุรกิจด้านจัดการความมั่งคั่งเผชิญกับการไหลออกของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเป็นมูลค่ากว่า 133,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 4 ล้านล้านบาท

ด้านผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด คือ ธนาคารแห่งชาติซาอุดี (Saudi National Bank) ระบุว่า จะไม่เพิ่มการลงทุนในเครดิตสวิส เพราะตอนนี้นาคารได้ถือหุ้นคิดเป็นสัดส่วน 9.8 % และหากเพิ่มทุนอีกสัดส่วนนี้ก็จะเพิ่มขึ้นเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ก็จะมีปัญหาด้านกฎระเบียบ

ขณะที่โฆษกนอกจากนี้ผู้บริหารของเครดิตสวิส กล่าวต่อที่ประชุมในกรุงริยาดห์ ซาอุดิอาระเบีย ว่า ทางธนาคารได้รับยาแรงเพื่อลดความเสี่ยงไปแล้ว ทำให้ขณะนี้มีมีงบดุลที่แข็งแกร่งมาก

ด้านกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า กำลังจับตามองสถานการณ์ของธนาคารเครดิตสวิสอย่างใกล้ชิด และได้ติดต่อไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อให้เตรียมรับมือ ขณะที่ดัชนีหุ้นในสหรัฐฯ ผันผวนอย่างหนักตลอดสัปดาห์นี้ หลังจากเหตุการณ์ธนาคารซิลิคอนแวลลีย์ (SVB) ล้มลงเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว และเกิดความกังวลว่าธนาคารในยุโรปอีกหลายแห่งอาจล้มตามมา

 

สำหรับ สำหรับเครดิตสวิส  เป็นธนาคารระดับโลกที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1856  มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองซูริก และมีสำนักงานอยู่ในศูนย์กลางการเงินทุกแห่งทั่วโลก ถือเป็นหนึ่งในธนาคารขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อการเงินโลก

อย่างไรก็ตามในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เครดิต สวิส ประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2015 ต่อเนื่องมาปี 2016 สาเหตุมาจากการตัดหนี้สูญของสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ที่เป็นผลพวงมาจากวิกฤตซับไพร์  (subprime) ปี 2008 และ  วิกฤตหนี้ยุโรป ในปี 2009

 ขณะที่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยังเกิดกรณีการล้มลายของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ “อาร์คีกอส แคปิตอล” (Archegos Capital) ซึ่งเครดิต สวิส ได้ร่วมปล่อยกู้ให้กับกองทุนประกันความเสี่ยงรายนี้ไปลงทุน แต่กลับประสบปัญหาขาดทุนหนัก จนกระทบต่อผลประกอบการของธนาคารเอง