สัปดาห์นี้จับตา 3 ปัจจัยกระทบตลาดหุ้นไทย หลังปีนี้ต่างชาติเทขาย 9.2 พันล้าน
นับตั้งแต่ต้นปีต่างชาติขายหุ้นไทยแล้วกว่า 9.2 พันล้านบาท กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงกว่า 8% หรือราว 143 จุด โบรกฯประเมินปัจจัยสัปดาห์นี้ จากความคืบหน้าจัดตั้งรัฐบาล และกนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย
ส่งออกยังหดตัวต่อเนื่อง เดือน เม.ย.ลดลง 7.6% - ไทยขาดดุลการค้า
นักเศรษฐศาสตร์ แนะรัฐบาลใหม่บริหารรายได้ให้ดี เร่งแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ปฏิรูปการศึกษา
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2566 บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส (ASPS) เปิดเผยในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นไทย (SET) ยังคงมีความกังวลจากประเด็นทางการเมือง ที่ยังไม่ได้ข้อตกลงที่เรียบร้อย และอาจจำไปสู่สุญญากาศของการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบตั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยปัจจัยที่จะช่วยให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยขับเคลื่อนในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย
-การนัดหารือระหว่างพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค ในวันนี้ 30 พ.ค.66 เพื่อ มีจุดประสงค์วางแนวทางการทำงานร่วมกันหลังจากนี้ เพื่อให้เป็นรูปธรรม โดยพรรคก้าวไกล จะเสนอให้มีการประชุมร่วมกันเป็นวาระประจำ และเตรียมตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล หรือ Transition Team ภายหลังจากการลงนาม MOU แล้วเสร็จในสัปดาห์ก่อนหน้า รวมถึงพร้อมคุยกับพรรคเพื่อไทยหาข้อยุติตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร์ รวมถึงตำแหน่งใน ครม.
-ข้อมูลการนำเข้า-ส่งออกไทย ประจำเดือน เม.ย.66 ซึ่งตลาดคาดตัวเลขนำเข้าอยู่ที่ -5.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ลดลงจากงวดก่อนหน้าที่ -7.1%YoY และตัวเลขส่งออกอยู่ที่ -2.1%YoY ลดลงจากงวดก่อนหน้า -4.2%YoY ซึ่งหากผลลัพธ์ออกมาตามตลาดคาด หรือดีกว่าคาด จะทำให้ดุลการค้าดีขึ้น และหนุนให้ดุลบัญชีเดินสะพัดดีขึ้นตาม
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ รายงานตัวเลขส่งออกไทย -7.6% YoY และนำเข้า -7.3%YoY ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาการณ์ไว้ ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 1,471 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
-การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 31 พ.ค.66 ด้าน Bloomberg และตลาดก็คาดการณ์ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 2.00% โดยสังเกตได้จากตราสารหนี้ระยะสั้นของไทยที่ปรับตัวขึ้นแรงในเดือน พ.ค.66
ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ บล.เอเซียพลัส ประเมินว่าการขึ้นดอกเบี้ยตามกลไกเป็นตัวจำกัด Upside ของตลาดหุ้นไทยให้ซื้อขายบน PE ที่ต่ำลง กดดันตลาดหุ้นช่วงสั้น ๆ
อย่างไรก็ตามมีโอกาสเห็นการเคลื่อนย้ายของเม็ดเงินต่างชาติ (Fund Flow) ออกจากสินทรัพย์เสี่ยงไปสู่สินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ต่างชาติขายหุ้นไทยราว 9.2 หมื่นล้านบาท และมีการไหลออกหนัก ๆ ในช่วงหลังเลือกตั้งราว 2.3 หมื่นล้านบาท ในช่วงวันที่ 15 – 29 พ.ค. 66
สรุปเม็ดเงินต่างชาติ ยังมีโอกาสชะลอในช่วงนี้ทั้งการเมืองที่ยังไม่นิ่ง บวกกับแรงกดดันจาก กนง. มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยสูง