รู้จัก “กองทุนรวม” ทางเลือกสร้างความมั่งคั่งทางการเงิน
รูปแบบการลงทุนมีหลากหลาย ทั้งหุ้น ทอง สินทรัพย์ต่างๆ รวมถึง การลงทุนในกองทุน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ที่อยากเริ่มต้นและต่อยอดสู่ความมั่งคั่งทางการเงิน วันนี้ พีพีทีวี เอชดี 36 จะพาไปรู้จักการลงทุนประเภทนี้กัน
มารู้จักความหมายของ กองทุนรวม” ก่อน
รู้จักกระปุกเงิน 5 ชีวิต มีไว้เพื่อ หาเงิน ใช้เงิน เก็บออม ต่อยอด
ลงทุนแบบไหนที่ใช่? สร้างผลตอบแทนในพอร์ตหุ้นที่น่าพอใจ
ตามข้อมูลจากธนาคารกรุงศรี ในนิยามของ กองทุนรวม คือ การระดมเงินทุนจากนักลงทุนหลายรายมารวมกันให้เป็นเงินลงทุนก้อนใหญ่ โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ผู้ทำหน้าที่ระดมเงินทุนจะนำกองทุนไปจดทะเบียน เป็นนิติบุคคล และนำเงินกองทุนนั้นไปลงทุนตามนโยบายตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน
ส่วนของ นักลงทุนในกองทุนจะเรียกว่า “ผู้ถือหน่วยลงทุน”
ซึ่งจะได้รับการจัดสรรหน่วยลงทุนเพื่อแสดงสถานะความเป็นเจ้าของในเงินที่ได้ลงทุนไป และเมื่อเกิดผลตอบแทนขึ้น บลจ.จะจัดสรรผลตอบแทนนั้นให้ผู้ถือหน่วยลงทุนตามจำนวนหน่วยที่มีอยู่ ซึ่งมูลค่าหน่วยลงทุนจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงจากมูลค่าเริ่มต้นขึ้นอยู่กับการบริหารของ บลจ.ในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน
ต่อมา คือ ประเภทของกองทุนรวม ซึ่งมีอยู่มากมายหลากหลายประเภท โดยแบ่งเป็นหลักๆ คือ
กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund)
- กองทุนนี้จะลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้คุณภาพดีที่มีอายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี
- มีความเสี่ยงต่ำที่สุด ทำให้เหมาะสมนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ หรือ อยากลงทุนระยะสั้นๆ
- ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยบัญชีเงินฝากออมทรัพย์และผลตอบแทนที่ได้และไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย
กองทุนรวมตราสารหนี้ (Fixed Income Fund)
- ลงทุนในเงินฝาก และตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง ตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ของภาคเอกชน
- ผลตอบแทนส่วนใหญ่เป็นดอกเบี้ย อาจมีส่วนต่างของราคาต้นทุนของตราสารหนี้ที่ลงทุนกับราคาตลาดซึ่งจะมีการคำนวณทุกวัน ตรงนี้อาจทำให้เกิด กำไรหรือขาดทุนได้ ต่างกันในแต่ละช่วงเวลา
- เหมาะกับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างต่ำ และคาดหวังความสม่ำเสมอของผลตอบแทน
แต่...ราคาของกองทุนตราสารหนี้อาจมีความผันผวนได้ตามภาวะตลาด ดังนั้น การลงทุนควรเป็นไปตามระยะเวลาที่แนะนำ เช่น กองทุนตราสารหนี้ระยะปานกลาง ควรลงทุนอย่างน้อย 1 ปี
กองทุนรวมผสม (Mixed Fund)
- ลงทุนทั้งในตราสารหนี้หุ้น และสินทรัพย์อื่นๆ
- ผลตอบแทนและความเสี่ยงจะแตกต่างไปตามสัดส่วน ของแต่ละตราสาร
- เหมาะกับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ระดับปานกลางค่อนข้างสูง หรือต้องการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ภายในกองทุนเดียว โดยมีผู้จัดการกองทุนคอยบริหารสัดส่วนการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ให้เหมาะกับแต่ละภาวะตลาด
กองทุนรวมตราสารทุน (Equity Fund) หรือ กองทุนรวมหุ้น
- ลงทุนในหุ้น เช่น หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ หรือ ใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหลักทรัพย์(Warrant) รวมถึงหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอื่นๆ
- ถูกกำหนดให้มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นอย่างน้อย 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
- บางกองทุนมีนโยบายลงทุนตามขั้นต่ำ แต่ละกองทุนอาจลงทุนสูงสุดที่ 100%
- การลงทุนในหุ้นมีความผันผวนซึ่งนำไปสู่ทั้งโอกาสและความเสี่ยง
- กองทุนหุ้นจึงเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง สามารถลงทุนระยะยาวได้ และรับความเสี่ยงได้ว่าอาจเกิดการขาดทุนระยะสั้น
กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Fund: FIF)
- ลงทุนในกองทุนต่างประเทศ มีนโยบายให้เลือกลงทุนหลากหลายเช่นเดียวกับกองทุนในประเทศ เช่น กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ กองทุนหุ้นต่างประเทศ เป็นต้น เนื่องจากแต่ละประเทศมีสภาพเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองแตกต่างกัน
- สินทรัพย์ในต่างประเทศกับในประเทศไทย อาจมีผลตอบแทนแตกต่างกัน
- การเลือกลงทุนใน FIF เป็นการช่วยกระจายความเสี่ยง นอกจากความเสี่ยงเฉพาะของแต่ละตราสารการลงทุนแล้ว การลงทุนใน FIF ยังมีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนด้วย
- นักลงทุนจึงต้องสามารถรับความผันผวนของค่าเงินที่กองทุนไปลงทุนด้วยเช่นกัน
กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund: SSF)
- ส่งเสริมการออมระยะยาว ด้วยการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากภาครัฐ
- ผู้ลงทุนจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามที่ลงทุนจริงสูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษีในแต่ละปี และไม่เกิน 200,000 บาท โดยเมื่อนับรวมกับเงินลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- SSF สามารถลงทุนในสินทรัพย์ได้ หลากหลายประเภทเหมือนกองทุนรวมทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นตราสารหนี้, หุ้น, REITs
- สามารถลงทุนได้ทั้งในและต่างประเทศ เป็นทางเลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนทุกประเภทที่สามารถลงทุนระยะยาวได้
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF)
- ส่งเสริมการออมและเตรียมความพร้อมสำหรับการเกษียณอายุ
- ผู้ลงทุนจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามที่ลงทุนจริงสูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษีในแต่ละปี โดยเมื่อนับรวมกับเงินลงทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- RMF มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย ตั้งแต่การลงทุนในตลาดเงิน ตราสารหนี้ ตราสารผสม และ หุ้นทั้งในและต่างประเทศ
- ผู้ลงทุนสามารถเลือกออมเงินลงทุนตามความเสี่ยง ความคาดหวังในผลตอบแทน และระยะเวลาการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง
- RMF จึงเป็นทางเลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนทุกประเภทที่สามารถลงทุนระยะยาวได้
กองทุนรวมที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก (Alternative Investment)
- ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือกต่างๆ เช่น หน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันดิบ รวมถึงทองคำ
- กองทุนประเภทนี้มีความเสี่ยงสูงมาก เนื่องจากทรัพย์สินที่ไปลงทุนอาจมีความผันผวนของราคาสูงมาก หรืออาจไม่มีสภาพคล่องในการซื้อขาย หรือราคาอ้างอิงกับสินทรัพย์อื่นๆ
- ผู้ที่จะเลือกลงทุนในกองทุนประเภทนี้ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ไปลงทุน ลงทุนระยะยาว และสามารถรับความเสี่ยงได้สูง
อย่างไรก็ตาม กองทุนรวมเป็นหนึ่งในการลงทุนและมีหลากหลายรูปแบบ ขณะเดียวกันทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุนควรปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินหรือสถาบันการเงินก่อนตัดสินใจเพื่อให้ได้กองทุนที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด และสร้างความมั่งคั่งให้กับเงินในในกระเป๋าให้เพิ่มพูนมากขึ้น รวมถึงหากต้องเผชิญกับการขาดทุนก็สามารถตั้งรับ หรือ รับมือได้ทันท่วงที
ข้อมูลจาก ธนาคารกรุงศรี