CENTEL ไตรมาสสองกำไร 121 ล้านบาท โต 450% จ่อปิดปรับปรุง 2 โรงแรม
บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ไตรมาส 2 ปี 66 กำไรเพิ่มขึ้น 450% ที่ 121 ล้านบาท ปัจจัยหลักจากธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารมีรายได้เพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เผยไตรมาส 3 ปี 66 เตรียมปิดปรับปรุงโรงแรม 2 แห่งในภูเก็ต และพัทยา
CENTEL กำไรไตรมาสแรกพุ่ง 1,530% รับท่องเที่ยวฟื้นตัวแรง
โบรกฯ คาด CENTEL ปีนี้กำไร 1.5 พันล้าน แต่ราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยฟื้นตัวแล้ว
เปิดคาดการณ์งบไตรมาส 2 กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม จับตา 3 ปัจจัยครึ่งหลังปี 66
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL รายงานผลดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 5,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 121 ล้านบาท เติบโต 450% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) อยู่ที่ 1,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรก่อนค่าเสื่อมราคาฯ (EBITDA Margin) เท่ากับ 23% ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านธุรกิจโรงแรม มีรายได้ 2,028 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวของโรงแรมภายในประเทศ
สำหรับรายได้ต่อห้องพักเฉลี่ยของโรงแรมทั้งหมด (RevPAR) อยู่ที่ 3,068 บาท เพิ่มขึ้น 40% จากการเพิ่มขึ้นของอัตราเข้าพักเฉลี่ย (OCC) ที่ 67% จาก 49% ในไตรมาส 2 ปี 65 และราคาห้องพักเฉลี่ย (ARR) เพิ่มขึ้น 3% เทียบกับปีก่อน อยู่ที่ 4,596 บาท
ด้านธุรกิจอาหาร มีรายได้ 3,222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการนั่งรับประทานในร้านและซื้อกลับบ้าน ส่วนเดลิเวอร์รีมีสัดส่วนลดลง ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีร้านอาหาร 1,590 สาขา เพิ่มขึ้น 78 สาขา จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นร้านอาริกาโตะ เพิ่มขึ้น 36 สาขา เคเอฟซี 19 สาขา อานตี้ แอนส์ 12 สาขา และ มิสเตอร์โดนัท 10 สาขา
ณ วันที่ 30 มิ.ย. 66 บริษัทมีสินทรัพย์ 55,208 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากสิ้นปี 65 และมีหนี้สิน 35,395 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากสิ้นปี 65 ขณะที่ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด เท่ากับ 4,214 ล้านบาท
นอกจากนี้ CENTEL ระบุอีกว่า บริษัทมีแผนปรับปรุงใหญ่โรงแรงในประเทศไทย 2 แห่ง เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 66 คือ โรงแรมเซ็นทารา กะรน ภูเก็ต จำนวน 335 ห้อง และโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา จำนวน 553 ห้อง
ล่าสุด หุ้น CENTEL วันที่ 15 ส.ค. 66 ราคาอยู่ที่ 42 บาทต่อหุ้นปรับลดลง 13.4% และเป็นราคาระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปี
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ระบุว่า ไตรมาส 2 ปี 66 กำไรสุทธิ CENTEL ต่ำกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ราว 250 ล้านบาท และ Bloomberg Consensus ที่ 333 ล้านบาท โดยมีภาระดอกเบี้ยที่สูงกว่าคาด ตามสัญญาเช่าของสัญญาใหม่ในโรงแรงที่หัวหินและโรงแรมใหม่ เซ็นทาราแกรนด์ โอซาก้า ที่ญี่ปุ่น
โดยในไตรมาส 3-4 ฝ่ายวิจัยประเมินว่า โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ โอซาก้า ที่ญี่ปุ่น มีผลกระทบยังคงใกล้เคียงกับไตรมาส 2 และส่วนโรงแรมหัวหิน มีผลกระทบเพิ่มขึ้น ราว 19 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 2 เริ่มรับรู้ผลจากสัญญาใหม่เพียง 1 เดือนเท่านั้น
นอกจากนี้ CENTEL ยังมีความเสี่ยงในการถูก Downgrade earning จากตลาด โดยทางพื้นฐานโรงแรมในมัลดีฟส์ยังดูอ่อนแอและมาร์จิ้นธุรกิจร้านอาหารฟื้นช้ากว่ากลุ่มฯ แม้แนวโน้มกำไรผ่านจุดต่ำสุด แต่ในเชิงราคาหุ้นพบว่า CENTEL กลับชนะตลาดเกือบทุกช่วงเวลา จึงมองราคาหุ้น CENTEL ต่อจากนี้ ภายใต้งบไตรมาส 2 ปี 66 ที่น่าผิดหวัง ยากที่จะชนะตลาดเหมือนช่วงที่ผ่านมา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2566