หุ้นไทยเช้านี้ พุ่ง 20 จุด รับเฟดคงดอกเบี้ย บอนด์ยีลด์สหรัฐฯร่วง
ดัชนีหุ้นไทยเช้าวันนี้ พุ่งทะยานถึง 20 จุด ก่อนปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,397.31 จุด หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ปรับลดลง จากเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นรอบที่ 2 ตามตลาดคาดการณ์ ดันเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง โบรกฯมองกรอบแนวต้าน 1,390-1,400 จุด
ค่าเงินบาทวันนี้ แข็งขึ้น 36.04 จากดอลลาร์อ่อนลง ตลาดคลายกังวลดอกเบี้ย
ราคาทองคำวันนี้ เปิดร่วง 150 บาท เงินบาทแข็งขึ้น หลังเฟดคงดอกเบี้ยตามคาด
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2566 ดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (SET Index) ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 20 จุด แตะระดับ 1,400.55 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 1 สัปดาห์ ก่อนจะย่อตัวลงมาปิดตลาดภาคเช้าที่บริเวณ 1,397.31 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.26% มีมูลค่าการซื้อขายครึ่งวัน 22,573 ล้านบาท
โดยหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขาย 5 อันดับแรก ได้แก่
- DETA เพิ่มขึ้น 4.25% ที่ระดับ 84.75 บาทต่อหุ้น
- ADVANC เพิ่มขึ้น 0.47% ที่ระดับ 213 บาทต่อหุ้น
- KBANK ลดลง 0.38% ที่ระดับ 132.00 บาทต่อหุ้น
- PTT ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ที่ระดับ 33.00 บาทต่อหุ้น
- PTTEP ลดลง 0.92% ที่ระดับ 161.50 บาทต่อหุ้น
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัว จากปัจจัยภายนอกที่สหรัฐอเมริกา มีเปิดขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 1.12 แสนล้านเหรียญ ต่ำกว่าตลาดคาด 1.14 แสนล้านเหรียญ และธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ยังมีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.5%
ด้านข้อมูลจาก FED WATCH TOOL คาดว่า เฟด มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยต่อในเดือน ธ.ค. 66 ลดลงเหลือไม่ถึง 20% ซึ่งหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวลงแรงถึง -21 BPS. มาอยู่ที่ 4.71% หนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นแรง +0.67% ถึง +1.64%
ทั้งนี้จากสถิติในอดีตช่วงที่ผ่านมา บ่งชี้ว่า บอนด์ยีลด์สหรัฐ 10 ปี แปรผกผันกับผลตอบแทน SET Index และ FLOW ต่างชาติเสมอ
- ช่วงที่ 1 (9 –11 ต.ค.66) บอนด์ยีลด์สหรัฐ 10 ปี ปรับตัวลง 25 BPS. ด้าน SET Index ปรับขึ้น 1.2%, ต่างชาติซื้อสุทธิ (FUND FLOW NET BUY) เพิ่มขึ้น 4.6 พันล้านบาท
- ช่วงที่ 2 (12 –19 ต.ค.66) บอนด์ยีลด์สหรัฐ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 40 BPS. ด้าน SET Index ปรับลง 2.3%, ต่างชาติซื้อสุทธิ ขายสุทธิ 4.6 พันล้านบาท
ซึ่งหากพิจารณาช่วงที่ 1 กลุ่มหุ้นที่ขึ้นได้เด่น อาทิกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ HANA KCE, ปันผลสูง LH SIRI TISCO, การเงิน SAWAD MTC TIDLOR, โรงไฟฟ้า EGCO GULF เป็นต้น
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส คาดการณ์ว่า SET Index จะฟื้นตัวระยะสั้นเข้าหากรอบแนวต้าน 1,390-1,400 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสมากขึ้นจาก บอนด์ยีลด์สหรัฐ สหรัฐฯที่ร่วงลง
ขณะที่ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ไม่ได้เซอร์ไพรส์ ตลาดยังคงเน้นย้ำว่าเงินเฟ้อ 2% ยังต้องใช้เวลาในการปรับลง และยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งสิ้นปีหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่มองว่า เฟด จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้น
ส่วนปัจจัยในประเทศโฟกัสยังคงอยู่ที่การประกาศกำไรไตรมาส 3 ปี 66 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งภาพรวมไม่สดใสนัก และต้องจับตาว่าจะออกมาแย่กว่าคาด และเห็นการปรับประมาณการปี 2566-67 ลงมามากน้อยเพียงใด ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณการปรับลงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ด้าน Valuation ของ SET ปัจจุบันมองว่าไม่สูง ทำให้ระดับต่ำกว่า 1,400 จุด เริ่มมี Downside ที่จำกัด โดยหาก PER (อัตราส่วนราคาต่อกำไร) ถูกปรับลงสู่กรอบ 13.2-13.6 เท่าจะเทียบเท่าดัชนี ราว 1,320-1,360 จุด เป็นระดับที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะกลาง-ยาว
ผลประกบคู่คาราบาว คัพ รอบ 8 ทีม ลิเวอร์พูล ดวล เวสต์แฮม
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ วิเคราะห์แชมป์พรีเมียร์ลีกหลังผ่าน 10 เกม ทีมไหนได้ลุ้น
ตอกย้ำกระแสความแรง “สัปเหร่อ” เตรียมโกอินเตอร์ จ่อเข้าฉาย 9 ประเทศ