ส่งฟ้องล็อตแรก 11 ราย โกง STARK เร่งสอบเงิน 1.6 หมื่นล้าน พบโอนไปต่างประเทศบางส่วน
ดีเอสไอ ส่งฟ้องผู้ต้องหาล็อตแรก 11 ราย คดีโกงเงินใน บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น หรือ STARK และแยกดำเนินคดีผู้รับโอนเงิน เผยเงินที่ได้จากระดมทุน 1.6 หมื่นล้านบาท ถูกโอนเข้าบริษัทลูกหลายทอดก่อนย้อนกลับเข้า STARK ส่ง ปปง.สืบเส้นทางการเงิน พบทรัพย์สินบางส่วนถูกโอนต่างประเทศ เร่งประสานติดตามกลับมา คาด 9 ม.ค. 67 มีความชัดเจน
DSI ประสานตำรวจสากลหาที่หลบซ่อน “ชนินทร์” คดีหุ้น STARK ออกหมายเรียกอีก 3 ราย
ดีเอสไอ รับ STARK เป็นคดีพิเศษ สืบพบการกระทำผิดผู้บริหาร
ก.ล.ต.ยันเร่งทำงานเต็มที่ คดี STARK เดินหน้าสอบกรณีปั่นหุ้น-ผู้สอบบัญชี
พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนดคีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ (DSI) เปิดเผยถึงการสอบสวนการทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ว่า ขณะนี้คดี STARK ได้สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว และคณะพนักงานสอบสวนได้มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นควรส่งพนักงานทำความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาในล็อตแรกจำนวน 11 ราย ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ และความผิดฟอกเงิน
เปิดธุรกรรมผิดปกติ STARK ปลอมยอดขาย โอน 1 หมื่นล้าน ให้บริษัทรายเดียว
ทั้งนี้ในส่วนที่พบหลักฐานความผิดชัดเจนว่ารับโอนเงิน เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน วันนี้ได้ส่งตัวผู้ต้องหาดังกล่าว และสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการเรียบร้อยแล้ว และได้แยกดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องอีกส่วนหนึ่งเป็นสำนวนที่ 2
สำหรับเส้นทางการเงิน จากการสอบสวนพบว่าหลังการระดมทุนหุ้นกู้และหุ้นเพิ่มทุนราว 15,000 – 16,000 ล้านบาท ได้ถูกโอนไปยังบริษัทลูกอีกหลายทอด และมีการวนกลับมาเพื่อชำระหนี้ที่สร้างไว้ โดยเมื่อมีการชำระหนี้แล้ว เงินดังกล่าวก็จะเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดที่วนเข้ามาหมุนเวียนในบริษัท ซึ่งได้เสนอให้ ปปง.ดำเนินการตรวจสอบต่อว่า เงินจำนวนดังกล่าวได้ถูกถ่ายโอน และชำระหนี้ที่ไหน เพื่อที่จะติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับมาดำเนินมาตรการคุ้มครองสิทธิให้ผู้เสียหายได้
“ในส่วนแรกเรามีความเห็นควรสั่งฟ้องล็อตแรกก่อน 11 ราย ที่เหลือจะมีการแยกไว้สอบสวนดำเนินคดี ทั้งในความผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งความผิดอาญาฐานฟอกเงิน หมายความว่าเงินที่กระจายไป ถ้าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการระดมทุน และมีจำหน่ายจ่ายโอนไปยังบุคคลใด ท่านมีเจตนารู้ว่าเป็นทรัพย์ที่มาจากการกระทำความผิด ปปง.ก็จะยึดเพื่อมาดำเนินการเพื่อคุ้มครองสิทธิผู้สเสียหาย ส่วนในทางอาญาดีเอสไอก็จะเอาผิดฐานฟอกเงิน ผู้โอน หรือผู้รับโอน มีโทษอาญาจำคุก 10 ปี ซึ่งจะดำเนินคดีทั้งหมด” พ.ต.ต. ยุทธนา กล่าว
ทั้งนี้สาเหตุที่แยกคดีออกเป็น 2 สำนวน เพราะว่าถ้ารวมเป็นเรื่องเดียวกันอาจจะใช้เวลานาน และทางดีเอสไอต้องการใช้ความเห็นสั่งฟ้องในชั้นอัยการ เพื่อดำเนินการติดตามผู้ต้องหาในต่างประเทศด้วย
พ.ต.ต. ยุทธนา กล่าวต่อว่า ในคดีหุ้น MORE ของ บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) ขณะนี้ ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาแล้วจำนวนว 10 ราย จากทั้งหมด 32 ราย และกำลังทยอยเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา คาดเสร็จสิ้นราวสิ้นเดือน ก.พ. 67 และจะส่งเรื่องให้อัยการ
ด้านนายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย โฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า ทรัพย์สินที่ยึดได้จาก STARK ในครั้งแรกมีจำนวนวน 350 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นของกลางในคดีพิเศษ แต่ยังมีทรัพย์อีกชุดที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ใช้อำนาจอายัดทรัพย์ชั่วคราวไว้จำนวนหลักพันล้านบาท ตอนนี้ ปปง.อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าทรัพย์สินดังกล่าว ตรงกับทรัพย์ก้อนไหนที่จะสามารถดำเนินตามกฎหมายฟอกเงินได้ คาดว่าวันที่ 9 ม.ค.67 จะมีความคืบหน้าที่ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ยังพบเบาะแสว่ามีทรัพย์สินบางส่วนถูกโอนไปต่างประเทศ โดยปปง.ได้ประสานงานไปยังปลายทางประเทศต่าง ๆ ที่คาดว่ามีเส้นทางการเงินเชื่อมโยง เพื่อจะได้ดำเนินการติดตามทรัพย์สินกลับมา คาดว่าภายในเดือน ม.ค.จะมีผลดำเนินการชุดใหญ่ออกมา
สำหรับคดีของหุ้น MORE ทาง ปปง.ได้ยึดอายัดทรัพย์สินแล้ว 5,395 ล้านบาท ตอนนี้ได้ส่งเรื่องไปที่ศาลแพ่งทั้งหมด เพื่อพิจารณาว่าทรัพย์สินที่ยึดมาดังกล่าวได้รับจากการกระทำความผิดหรือไม่ และผู้เสียหายจะมีสิทธิได้รับการคุ้มครองหรือไม่
เปิดใจ! ครูขายโรตีเลี้ยงชีพ หลังโดน ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดให้ออกจากราชการ
กางปฏิทินจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้างลูกจ้างประจำ บำนาญ ปี 2566
เปิดสถิติหวยออกย้อนหลัง 15 ปี งวด 16 ธันวาคม