BDMS เปิดกำไรปี 2566 โต 14% จ่ายปันผลอีก 0.35 บาท/หุุ้น
BDMS เปิดกำไรปี 2566 โต 14% แตะ 14,375 ล้านบาท เคาะจ่ายปันผลอีก 0.35 บาท/หุุ้น วันที่ 22 เม.ย.2567
บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผลประกอบการปี 2566 บริษัทและบริษัทย่อยมี EBITDA จำนวน 24,740 ล้านบาท ในปี 2566 หรือเพิ่มขึ้น 8%
BDMS ครองอันดับหนึ่ง ผู้นำในดัชนี DJSI ปี 2566 กลุ่มการบริการทางการแพทย์
เปิดผลการดำเนินงาน 4 หุ้นกลุ่ม GULF พร้อมราคาเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 14,375 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปี 2565 ส่วนรายได้จากการดำเนินงานรวมทั้งสิ้น 102,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,143 ล้านบาท หรือ 10% จาก ปี 2565
เนื่องมาจากรายได้ค่ารักษาพยาบาล จำนวน 97,077 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,542 ล้านบาท หรือ 10% จากปี 2565 เป็นผลมาจากการเติบโตของ COE (ศูนย์การแพทย์แห่งความเป็นเลิศ) 11% ประกอบกับการเติบโตของรายได้ ผู้ป่วยชาวต่างชาติ 23% โดยมีการเพิ่มขึ้นหลักจากผู้ป่วยชาวการ์ตา 85% ชาวจีน 45% และชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 43% จากปี 2565
เปิดกำไร 7 หุ้นกลุ่ม ปตท. โชว์กำไรปี 66 ทะลุ 2 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ รายได้ผู้ป่วยชาวไทยยังเติบโต 6% และหากไม่รวมรายได้เกี่ยวกับ COVID-19 ซึ่งคิดเป็น 10% ของรายได้ค่ารักษาพยาบาลในปี 2565 รายได้ Thai-Non COVID-19 ในปี 2566 จะเพิ่มขึ้นถึง 22% สัดส่วนรายได้ของผู้ป่วยชาวไทยต่อต่างชาติเปลี่ยนแปลง จากที่ 76% ต่อ 24% ในปี 2565 เป็น 73% ต่อ 27% ในปี 2566
ส่วนรายได้ค่ารักษาพยาบาลมีการเติบโตที่ดีจากทั้งโรงพยาบาล เครือข่ายในกรุงเทพและปริมณฑลและโรงพยาบาลเครือข่ายนอกกรุงเทพฯ โดย เติบโต 8% และ 12% จาก ปี 2565 ตามลำดับ
ทั้งนี้ โรงพยาบาลเครือข่ายนอกกรุงเทพมีการเติบโตสูงกว่า เนื่องจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในพัทยาและภูเก็ต ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของโรคระบาดตามฤดูกาล อัตราการครองเตียงลดลงจาก 73% ในปี 2565 เป็น 69% ใน ปี 2566 เป็นผลมาจากการลดลงของจeนวนผู้ป่วยในด้วย โรค COVID-19
อย่างไรก็ตาม ปี 2566 บริษัทและบริษัทย่อยรายงานค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (รวมค่าเสื่อมราคา) จำนวน 83,218 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,234 ล้านบาท หรือ 10% จากปี 2565 จากการเพิ่มขึ้นของค่าแพทย์ ตามการเติบโตของรายได้ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับพนักงานทั้งบุคลากรทางการแพทย์ และบุคลากรสนับสนุน ค่าใช้จ่ายด้านการตลาด ค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค และค่าใช้จ่ายในการบริหารอื่นๆ
ส่วนในไตรมาส 4/2566 บริษัท และบริษัทย่อย มีรายได้จากกาดำเนินงานรวม 26,726 ล้านบาทเติบโต 12% จากไตรมาส 4/2565 มีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่ารักษาพยาบาล การเติบโตที่ดีจากรายได้ผู้ป่วยชาวต่างชาติ และรายได้จากผู้ป่วยชาวไทย
ไตรมาส 4/2565 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักค่าใช้จ่ายทางการเงิน ภาษีเงินได้ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (“EBITDA”) จำนวน 6,649 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%
และมีกำไรสุทธิจำนวน 3,952 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาส 4/2565 จากการเติบโตของผู้ป่วยไทยและต่างชาติ ประกอบกับการบริหารเงินที่ดีส่งผลให้รายได้ทางการเงินเพิ่มขึ้นและดอกเบี้ยจ่ายลดลง
อย่างไรก็ตาม BDMS มีมติจ่ายเงินปันผลอัตราหุ้นละ 0.70 บาทสำหรับหุ้นสามัญ 15,892,001,895 หุ้น เป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 11,124 ล้านบาท คิดเป็น 77.4% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม
โดยเมื่อวันที่ 29 ก.ย.2566 ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท คงเหลืออีก 0.35 บาท มีกำหนดจ่ายวันที่ 22 เม.ย.2567 และจะขึ้นเครื่องหมาย XD หรือวันที่ไม่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 6 มี.ค.2567
เพื่อนบ้านยึดบ้านอากู๋ ครอบครองปรปักษ์ เครียดคิดสั้น-ผูกคอลาโลก!
ผลบอลเอฟเอ คัพ รอบ 5 แมนซิตี้ ถล่ม ลูตัน 6-2 ลิ่วรอบ 8 ทีม
พายุฤดูร้อน! ประกาศเตือนฉบับที่ 8 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง