ตลาดหุ้นลุ้นผลประชุมเฟด คาดลดดอกเบี้ย มิ.ย. นี้
คาดหุ้นไทยแกว่งตัว 1,380 – 1,390 จุด รอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ แนะนำหุ้นกลุ่มรับเหมา ธนาคารพาณิชย์ และ ค้าปลีก
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) คาดว่า SET Index แกว่งตัว1,380 - 1,390 จุด ผลการประชุม BOJ วานนี้มีประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1) ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นครั้งแรกในรอบ 17 ปีมาที่ 0-0.1% 2) ยุติการใช้มาตรการ Yield Curve Control 3) ส่งสัญญาณไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากการเติบโตเศรษฐกิจที่เปราะบาง 4) การปรับขึ้นดอกเบี้ยฯจะเกิดเมื่อเงินเฟ้อเร่งตัวมากขึ้นจากนี้ ประเมินการส่งสัญญาณข้างต้นทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่า 1% ตลาดหุ้นญี่ปุ่นวานนี้ปรับขึ้น 0.6% เป็นผลดีต่อ Sentiment ในตลาดหุ้นภูมิภาค

จุดสนใจถัดไปอยู่ที่ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ( รู้ผลเช้ามืดวันที่ 21 มี.ค ตามเวลาบ้านเรา) คาดคงดอกเบี้ยฯ แต่ตลาดจะให้น้ำหนักไปที่การเปิดเผยมุมมองตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ การส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรก และดอกเบี้ย ณ สิ้นปี 67 ผ่าน FOMC Dot Plot (ที่ล่าสุดอยู่ที่ 4.6%) เทียบกับความคาดหวังของตลาดคาดว่าจะลดดอกเบี้ยครั้งแรก มิ.ย. และดอกเบี้ยปลายปีคาดที่ 4.75% ภายใต้ช่วงเวลารอความชัดเจนทำให้ Fund Flow ยังชะลอการไหลเข้า
ประเด็นต่อมาคือการพิจารณาร่างงบประมาณปี 67 วาระ 2-3 ระหว่างวันที่ 20-22 มี.ค.นี้ หากผ่านได้วันที่ 26 มี.ค. พิจารณาในชั้น ส.ว. และนำขึ้นทูลเกล้าฯในวันที่ 3 เม.ย. ซึ่งเชื่อว่าจะเบิกจ่ายในช่วงปลายเดือน เม.ย. เป็นต้นไป มองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (CK) ค้าปลีก (CPALL) กลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ (KTB BBL SCB)

หุ้นแนะนำ
SCB : ประกาศเงินจ่ายปันผลที่ 7.84 บาท/หุ้น หรืออัตราการจ่ายปันผลที่ 6.8% ซึ่งถือว่ามาแรงแซงทุกสถาบันการเงินในประเทศในเรื่องการจ่ายปันผลงวด 2H66 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 17 เม.ย.67 มองระดับการจ่ายปันผลสูงข้างต้นจะเป็นปัจจัยที่ช่วยจำกัด Downside และลดความผันผวนจากภาวะตลาด อย่างน้อยๆไปจนถึงช่วงสงกรานต์นี้ได้ ขณะที่ทิศทางผลประกอบการปี 2567E เราคาดการเติบโตสินเชื่อที่จะดีขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในช่วง 2H67 หลังเงินงบประมาณปี 67 เริ่ม เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยเราคาดกำไร 67E ขยายตัว 8%YoY ทำให้การรักษาปันผลระดับสูงยังมีต่อไป
CK : เป็น Top Pick ของหุ้นกลุ่มรับเหมาฯขนาดใหญ่เพราะมีโอกาสที่จะเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐที่จะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่ 2Q67 ด้านปัจจัยพื้นฐาน แข็งแกร่งสุดโดยคาดกำไร 2567 +30%YoY รายได้ธุรกิจหลักและส่วนแบ่งกำไรของบริษัทลูก ได้แก่ CKP ที่เชื่อว่ากลับมาเติบโตตามปริมาณน้ำที่มากขึ้นในช่วง 2H67 หลังปรากฎการณ์ El Nino คลี่คลายและ BEM ที่ได้แรงหนุนจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น
ส่วนปัจจัยหนุนระยะสั้น คือ การพิจารณาร่างงบประมาณปี 67 ในวาระ 2-3 ที่จะเริ่มในวันที่ 20-22 มี.ค. ซึ่งเชื่อว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี ก่อนที่จะส่งต่อ ส.ว.พิจารณาในสัปดาห์หน้าและนำขึ้นทูลเกล้าฯในวันที่ 3 เม.ย. ต่อไป
ประกาศฉบับที่ 7 รับมือ “พายุฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง”
วิเคราะห์ฟุตบอลโลก 2026 เกาหลีใต้ พบ ทีมชาติไทย 21 มี.ค.67
ด่วน! ศาลสั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา "ครูปรีชา" คดีฟ้องเท็จ