SCB CIO เปิด 5 ปัจจัยหนุนหุ้นไทยน่าสะสมบนพอร์ตลงทุนหลัก
SCB CIO มอง 5 ปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยน่าสะสมใน Core port พร้อมสนับสนุนกองทุน ThaiESG มุ่งสร้างวินัยการออมให้ตอบโจทย์ลูกค้า
SCB CIO สนับสนุนมาตรการรัฐกระตุ้นตลาดทุนไทย ปรับเกณฑ์เพิ่มวงเงินลงทุนกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund : ThaiESG) ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินและไม่เกิน 300,000 บาท ลดระยะเวลาลงทุนเหลือเพียง 5 ปี นับจากวันที่ลงทุน พร้อมดึง 6 กองทุน 3 รูปแบบ 2 ทางเลือก เป็นทางเลือกการออมที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดีให้กับผู้ลงทุน เพื่อตอบโจทย์ตามเป้าหมายความต้องการของลูกค้า
นายศรชัย สุเนต์ตา CFA รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Office and Product กลุ่มธุรกิจ Wealth ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า SCB CIO พร้อมสนับสนุนมาตรการส่งเสริมการออมการลงทุน ภายหลัง 3 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการคลัง ก.ล.ต. และ ตลท.ได้สรุปแนวทางและพร้อมเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน 2 สัปดาห์นี้ในการปรับเงื่อนไขกองทุน ThaiESG
การปรับเงื่อนไขกองทุนดังกล่าวจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในตลาดหุ้นไทยได้มากขึ้น จากกลุ่มผู้ลงทุนที่ต้องการรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และลงทุนเพื่อการออมระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ กลุ่มคนที่มีรายได้ประจำ รวมถึงผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ต้องการสร้างวินัยในการออม เพื่อเป้าหมายในอนาคตโดยเลือกลงทุนตามความเสี่ยงที่รับได้.....นายศรชัยกล่าว
นอกจากนี้การขยายนโยบายการลงทุนให้ครอบคลุมด้านธรรมาภิบาล ส่งเสริมความโปร่งใสจากเดิมเน้นด้านสิ่งแวดล้อม จะทำให้ครอบคลุมจำนวนบริษัทจดทะเบียนใน SET และ mai เพิ่มขึ้นจาก 128 บริษัทเป็น 200 บริษัทนั้น SCB CIO มองว่าจะทำให้การลงทุนในหุ้นไทยผ่าน ThaiESG ครอบคลุมครบทุกมิติของ ESG และมีความหลากหลายในการเลือกลงทุนเพิ่มมากขึ้น เป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนและสร้างความเชื่อมั่นที่ดีให้กับนักลงทุน เพราะเงื่อนไขการลงทุนของบริษัทต่าง ๆ จะต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่ ก.ล.ต.กำหนด
แนะนำให้ผู้ลงทุนพิจารณาลงทุนในตลาดหุ้นไทยบนพอร์ตลงทุนหลัก (Core port) ที่เป็นพอร์ตการลงทุนระยะยาว โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยสนับสนุนระยะยาว 5 ประเด็นหลักที่หนุนดัชนีหุ้นไทย ได้แก่
- การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐในปี 2567 ที่เร่งตัวขึ้นประมาณ 39% ในช่วงต้นเดือน มิ.ย. 67 และยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป
- Valuation ของตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในระดับที่ไม่แพงใกล้เคียงกับช่วงโควิด-19
- ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปี 67 ที่คาดว่าจะขยายตัวประมาณ 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
- ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 67 หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงช่วยสนับสนุนเงินทุนไหลกลับเข้าไทยมากขึ้น
- การประกาศเริ่มใช้มาตรการ Uptick Rule หรือให้ Short Sales หุ้นได้เฉพาะราคาที่สูงกว่าราคาตลาด ล่าสุด (uptick) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. เป็นต้นไปคาดว่าจะช่วยลดความผันผวนของตลาดลงได้ จากการที่ทำธุรกรรม Short Sales ได้ยากขึ้นในช่วงตลาดขาลง
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนระยะยาว พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีผ่านกองทุนรวม ThaiESG ปัจจุบัน SCB มีกองทุน ThaiESG ให้เลือก 3 รูปแบบ โดยในแต่ละรูปแบบมี 2 ทางเลือก คือแบบปันผล และสะสมมูลค่า ได้แก่
- กองทุน SCBTM (ThaiESG) และ SCBTM (ThaiESGA) ลงทุนแบบผสมหุ้นไทยและตราสารหนี้ ESG
- กองทุน SCBTA (ThaiESG) และ SCBTA (ThaiESGA) ลงทุนหุ้นไทย ESG ด้วยกลยุทธ์บริหารเชิงรุก
- กองทุน SCBTP (ThaiESG) และ SCBTP (ThaiESGA) ลงทุนหุ้นไทย ESG ที่ผลตอบแทนอิงตามดัชนี SET ESG
ผู้ลงทุนสามารถเลือกตามความเหมาะสม และเป้าหมายของแต่ละท่านที่ตั้งไว้ รวมทั้งความเสี่ยงที่สามารถรับได้
อุตุฯ เตือนฉบับ 10 กทม.-44 จังหวัดฝนตกหนัก ถึง 26 มิ.ย.
ก.ตร.จ่อเลื่อนวาระพิจารณา “บิ๊กโจ๊ก” หลังองค์ประชุมไม่ครบ
สรุปผลกลุ่ม C และ D ตารางคะแนน ยูโร 2024 (EURO 2024) ทีมใดเข้ารอบ