เจาะกรณีหุ้น EA มีผลต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไรบ้าง?
ตลอดวันนี้ มีความเคลื่อนไหวในแวดวงตลาดหุ้น ของ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA PPTV Wealth รวบรวมความเห็นทั้งจากรัฐมนตรีคลัง และ โบรกเกอร์ ว่ากรณีนี้จะมีผลกระทบต่อภาพรวมตลาดหุ้นไทยอย่างไร
เริ่มต้นที่ความเห็นจาก นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยถึงกรณีหุ้น EA ถูกถอดจากหุ้นที่ลงทุนในกองทุน Thai ESG โดยนายพิชัย ระบุว่า มีสัดส่วนการลงทุนประมาณ 6,000 กว่าล้านบาท คิดเป็นประมาณ 0.34% มีผลต่อ NAV หรือมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพียงนิดเดียว เมื่อถามว่า ต้องมีการการทบทวนเกณฑ์ การจัดอันดับ หุ้นที่ลงทุนใน Thai ESG หรือไม่
นายพิชัย ระบุว่า อาจต้องมีการทบทวนมีหลักเกณฑ์ หรือ มุมมองเพิ่มเติมให้มีความสอดคล้องมากยิ่งขึ้น ส่วนจะกระทบกับความเชื่อมั่นตลาดหรือไม่ นายพิชัย ย้ำว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ถ้ามีเรื่องเกิดแค่นี้จะหวั่นไหวคงไม่ได้ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นก็ต้องแก้กันไป
บล.เอเชีย พลัส มอง EA ไม่ถึงขั้นทำตลาดเสียศูนย์
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า แน่นอนว่ากรณีที่เกิดขึ้นกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA สร้างความกังและความไม่มั่นใจแก่นักลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งเชื่อว่าผลกระทบเรื่องความตื่นตระหนก จะเกิดขึ้นเพียงช่วงแรก ๆ หลังจากนั้นตลาดจะเริ่มนิ่งและเป็นช่วงมอนิเตอร์ว่าบริษัทจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งก็เห็นภาพแล้วว่ามีแผนในการบริหารจัดการ หลังจากนี้ผลกระทบน่าจะเริ่มน้อยลงไปเรื่อยๆ
ส่วนในมุมตราสารหนี้ นางสาวลัพธ์พร ปานะกุล ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ตลาดรอง ระบุว่า หุ้นกู้ EA ถูกเสนอขายเรื่อยๆ ตั้งแต่ถูกลด Credit Rating เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 67
แต่ฝั่งคนซื้อยังไม่มีเลย ยังไม่มีใครกล้าเสนอซื้อ ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นล่าสุดมองว่าแน่นอนส่งผลต่อความเชื่อมั่น ซึ่งกระทบกับตัวหุ้นและตัวบุคคล แต่ยังไม่กระทบถึงตัวเลขของบริษัทจริงๆ เช่น ผลประกอบการของบริษัท ยังไม่ไปถึงตรงนั้น
สำหรับภาระหนี้สินของบริษัท ที่จะครบกำหนดชำระในไตรมาสที่ 3 และ 4 ในปี 2567 นี้ ประกอบด้วย ภาระหนี้จากสถาบันการเงินประมาณ 3,200 ล้านบาท และหุ้นกู้จำนวน 5,500 ล้านบาทนั้น บริษัทก็ยืนยันว่าสามารถชำระได้ด้วยกระแสเงินสดจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมประมาณ 5,000 ล้านบาท และได้เตรียมวงเงินสำรองจากสถาบันการเงิน และหุ้นกู้ที่จะเสนอขายเพิ่มเติมด้วย
พอมีข่าวแบบนี้ขึ้นมา ตลาดจะตกใจกันแป๊บนึง แล้วสักพักของดีก็ยังคงเป็นของดีอยู่เสมอ ตลาดก็จะกรองออกมาว่า แม้จะผ่านเหตุการณ์ร้าย ๆ มาแต่บริษัทอื่นๆ ก็ยังคงดีต่อๆ ไป ลูกค้าก็กลับมาอุดหนุน เป็น flow ที่เราจะเห็นในทุกๆ ครั้ง เวลาที่มีข่าวไม่ดีออกมา นางสาวลัพธ์พร กล่าว
นายเทิดศักดิ์ยังบอกว่า ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2567 มูลค่าคงค้างตราสารหนี้อยู่ที่ 17 ล้านล้านบาท เป็นตราสารหนี้ภาคเอกชนเพียงแค่ 4.5 ล้านล้านบาท เพราะฉะนั้นเคสลักษณะแบบนี้ไม่ได้ทำให้ตลาดตราสารหนี้ถึงขั้นเสียศูนย์
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ ปรับเปลี่ยนบอร์ดชุดใหม่ ภายหลังที่ นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ประกาศลาออกจากการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ เพื่อความโปร่งใสและเปิดโอกาสให้เกิดการตรวจสอบได้อย่างเต็มที่
ต่อมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้น “H” หลักทรัพย์ของ EA และให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบฐานะการเงิน ที่อาจเกิดขึ้นจากภาระหนี้สินโดยเฉพาะเงินกู้และหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระภายในปี 2567 และแนวทางที่ชัดเจน ในการชำระหนี้ดังกล่าว รวมทั้งผลกระทบต่อการบริหารจัดการกิจการของบริษัท
จากนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย "SP" เนื่องจากบริษัทยังไม่สามารถชี้แจงข้อมูลตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯให้ชี้แจงเพิ่มเติม
ในส่วนของ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) ได้ส่งหนังสือชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เผยแพร่ข่าวฉบับที่ 143/2567 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 เกี่ยวกับการกล่าวโทษบุคคลรวม 3 ราย คือ นายสมโภชน์อาหุนัย และนายอมร ทรัพย์ทวีกุล ซึ่งเป็นกรรมการ และ ผู้บริหารบริษัท พลังงานบริสุทธิ์จำกัด (มหาชน) รวมทั้งนายพรเลิศ เตชะรัตโนภาส ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีร่วมกระทำ การทุจริต เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้แก่ตนเอง และ/หรือผู้อื่น ทำให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยเสียหาย พร้อมกันนี้ได้ส่งเรื่องต่อไปยัง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นั้น
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2567 บริษัทได้รับทราบมติที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ครั้งพิเศษที่ 2/2567 เรื่องการลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท กรรมการชุดย่อย และผู้บริหาร ของนายอมร ทรัพย์ทวีกุล ทั้งนี้นายอมร ทรัพย์ทวีกุล ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท และกรรมการบริหาร ของบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) แล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป
ทั้งนี้บริษัทขอเรียนยืนยันว่าการลาออกของกรรมการ ดังกล่าวจะไม่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการประกอบธุรกิจหลักและยังคงสามารถดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของคณะกรรมการบริษัทซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นบุคคลากรชุดเดิม โดยคณะกรรมการจะทำหน้าที่กำกับดูแลให้บริษัทประกอบธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายและแผนงานภายใต้นโยบายหรือกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่อาจเปลี่ยนแปลงรวมถึงกำกับดูแลให้มีการสรรหาบุคลากรที่มีความเหมาะสมและเพียงพอเพื่อรองรับการดำเนินงานให้มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องต่อไป
รับมือฝนถล่มหนัก! เตือน 15-18 ก.ค.เฝ้าระวังเป็นพิเศษ
"เมสซี่" กับสถิติส่วนตัวหลังพา อาร์เจนตินา คว้าแชมป์โคปา อเมริกา 2024
วิธีตรวจหวย N3 ก่อนเริ่มทดลองขายวันแรก 2 ต.ค. 67 ออกงวด 16 ต.ค.67