ลุ้นการเมืองวันนี้ดันหุ้นไทยฟื้น แนวต้าน 1310-1315 จุด
InnovestX วิเคราะห์หุ้นวันนี้ (14 ส.ค. 67) ช่วงสั้นยังผันผวน คาด SET ปรับขึ้นได้ ตามการเมืองลุ้นตลาดฟื้นตัว แนวต้าน 1310-1315 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) วิเคราะห์หุ้นวันนี้ (14 ส.ค. 67) คาด SET ปรับขึ้นได้ ด้วยปัจจัยหนุนการคาดการณ์ลดดอกเบี้ยของเฟด หลัง PPI สหรัฐต่ำกว่าคาด ส่วนปัจจัยการเมืองวันนี้ติดตามคำวินิจฉัยคดีคุณสมบัตินายกฯ หากไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญคาดเป็นปัจจัยหนุนอีกต่อ โดยดัชนีมีแนวต้านที่ 1310 และ 1315 จุดตามลำดับ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1290 และ 1285 จุดตามลำดับ

ช่วงสั้นมอง SET ยังผันผวนระหว่างรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศจากศาล รธน. เตรียมตัดสินคดีคุณสมบัติของนายกฯ ในวันนี้ และการเข้าสู่โค้งสุดท้ายการประกาศงบ 2Q67 ของ บจ.ไทยกลุ่ม Real Sector ขณะที่ปัจจัยภายนอก อาทิ ตัวเลขเงินเฟ้อ ก.ค. ของสหรัฐที่คาดจะลดลง และการผลิตภาคอุตสาหกรรม ก.ค. ของจีนที่อ่อนแอ มองว่าได้สะท้อนความเสี่ยงไปแล้วในระดับหนึ่งจากการปรับฐานในช่วงที่ผ่านมา
SET มีโอกาสฟื้นตัวหากปัจจัยการเมืองชัดเจนขึ้น (มองกรณีไม่ขาดคุณสมบัตินายกฯ คาด SET ฟื้นกลับไป 1330 จุด แต่หากขาดคุณสมบัติคาด SET มีโอกาสลงไปทดสอบ 1250 จุด) และคาดจะเริ่มเห็น Fund Flow ไหลเข้าสู่ตลาด EM มากขึ้น ซึ่งไทยมีแนวโน้มจะได้รับกระแสเงินนี้ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
จับตา! ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ชะตา คดีถอดถอน “เศรษฐา”
ไทม์ไลน์คดีถอดถอน “เศรษฐา” ก่อนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง!
ผัก-ผลไม้จีน ทะลักตลาดสดโคราช ถูกกว่าไทยเท่าตัว-เกษตรกรไทยกระทบเต็มๆ

KCE : 2Q67 มีกำไรปกติ 531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.1%QoQ และ 65.8%YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น ขณะที่คาดกำไรยังจะฟื้นตัวต่อเนื่องจากความต้องการ PCB ที่ยังแข็งแกร่งและการคุมต้นทุนต่อเนื่อง ซึ่งคาดหนุนอัตรากำไรขั้นต้นยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นไปถึง 4Q67 ล่าสุดประกาศจ่ายปันผลงวด 1H67 ที่ 0.6 บาท (XD 26 ส.ค.) คิดเป็น Div. yield 1.5% ทั้งนี้วันนี้แนะนำเข้าซื้อไม่เกิน 39.50 บาท
CPALL : 2Q67 มีกำไรปกติ 6.2 พันล้านบาท เติบโต 34%YoY จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นทั้งจากธุรกิจ CVS และ CPAXT ส่วน 2H67 คาดกำไรมีแนวโน้มที่จะเติบโต YoY โดดเด่นมากกว่าบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มพาณิชย์ โดยเกิดจากการเติบโตที่แข็งแกร่งจากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้นทั้งจากธุรกิจ CVS และ CPAXT อีกทั้งยังเป็น Proxy ของกลุ่มพาณิชย์ที่จะได้ประโยชน์จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

ประเด็นสำคัญ
- วันนี้เวลา 15.00น. ติดตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีขาดคุณสมบัติว่าจะส่งผลต่อการดำรงตำแหน่งหรือไม่
- กระทรวงการคลังเตรียมเปิดขายกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่งแก่นักลงทุนทั่วไปมูลค่ารวมไม่เกิน 1.5 แสนล้านบาท เพิ่มแรงจูงใจการันตีผลตอบแทนขั้นต่ำ คาดขายหน่วยลงทุนได้ในเดือน ก.ย. 67 และนำเข้าจดทะเบียนเพื่อซื้อขายใน ตลท. ใน 3Q67 เพื่อสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศ
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยดัชนี PPI ก.ค. ปรับขึ้น 2.2%YoY ส่วนดัชนี Core PPI ก.ค. ปรับขึ้น 2.4%YoY ต่ำกว่าตลาดคาด บ่งชี้ถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลง
- IEA คาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันจะเผชิญภาวะน้ำมันล้นตลาดในปีหน้า จากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ แคนาดา บราซิล และกายอานา แม้ว่าโอเปกยังคงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
- รมว.ท่องเที่ยวฯ เผยล่าสุดประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-11 ส.ค. 67 ทั้งสิ้นราว 21.8 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วราว 1 ล้านล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ รัสเซียคน
- MSCI ได้เผยรายชื่อหุ้นเข้าออกดัชนีรอบเดือน ส.ค. โดย MSCI Global Standard Index มีหุ้นถูกปรับออก 4 หุ้น AWC EA GPSC และ IVL และไม่มีหุ้นถูกปรับเข้า ส่วน MSCI Global Small Cap Index มีหุ้นถูกปรับเข้า 4 หุ้น และปรับออก 13 หุ้น มีผล ณ เวลาปิดตลาดวันที่ 30 ส.ค.
- ThaiBMA เผยตลาดหุ้นกู้กลับมาซบเซาอีกครั้ง ส่วนหนึ่งเนื่องจากเหตุการณ์ EA ขอเลื่อนชำระหุ้นกู้ และพบว่าหุ้นกู้ต่ำกว่า BBB- ขายได้ยากขึ้นและได้ไม่ครบวงเงิน ขณะที่หุ้นกู้เกรดลงทุนคงสามารถขายได้ครบวงเงิน แต่จะใช้เวลาขายนานขึ้น
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET จะผันผวนระหว่างรอความชัดเจนการเมืองในประเทศ อย่างไรก็ดียังคงคาดหวังตลาดหุ้นไทยจะมีโอกาสได้รับกระแสเงินจาก Fund Flow ที่เริ่มไหลเข้าสู่ตลาด EM มากขึ้น กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้
- หุ้นกลุ่ม Earnings Play ซึ่งมีโมเมนตัมกำไรยังดี โดย 3Q67 คาดเติบโต YoY และ QoQ ส่วน 2H67 คาดเติบโต HoH และ YoY อีกทั้ง Valuation ไม่แพง เลือก DELTA GULF KCE TU BTG BDMS TRUE BEM
- นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำและต้องการสร้างกระแสเงินสดในพอร์ต แนะนำหุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะสั้น เลือก BCP TU OSP ซึ่งคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H67 โดยให้ Div. Yield 2%
- หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG ใหม่ โดยขยายวงเงินเป็น 3 แสนบาทและลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว เลือก ADVANC AOT CPALL BDMS BBL KTB GULF
- ราคาน้ำมันดิบ Brent ฟื้นตัว จากความไม่สงบในตะวันออกกลางที่รุนแรงมากขึ้น และยังมีการโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันในรัสเซียกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยประเมินกรอบราคา 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP