แนวโน้มหุ้นวันนี้ (23 ก.ย.2567) คาดดัชนีเริ่มมี upside จำกัด
แนวโน้มหุ้นวันนี้ (23 ก.ย.2567) คาดดัชนีเริ่มมี upside จำกัด เนื่องจากดูแรงส่งของหุ้นขนาดใหญ่ต่างๆ ลดน้อยลง ส่วนเงินบาทที่แข็งค่ามากสุดในภูมิภาค สร้างความกังวลต่อการส่งออก
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) คาดดัชนีเริ่มมี upside จำกัด เนื่องจากดูแรงส่งของหุ้นขนาดใหญ่ต่างๆ ลดน้อยลง จากหลายตัวเข้าสู่ภาวะ overbought และเงินบาทที่แข็งค่ามากสุดในภูมิภาค สร้างความกังวลต่อภาคการส่งออก ด้านแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 1460-1465 จุด ส่วนแนวรับ ซึ่งใช้เป็นจุดติดตามกรอบล่างอยู่ที่ 1446 และ 1440 จุด ตามลำดับ หากต่ำกว่า จะเริ่มเห็นภาพการพักตัว
กลยุทธ์ลงทุนวันนี้
ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Up และเริ่มมี Upside จำกัด แรงหนุนจะมาจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง บวกกับ ความคาดหวังการออกนโยบายผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมทั้งการแข็งค่าของเงินบาทระยะสั้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทยเมื่อเทียบกับภูมิภาค สะท้อนได้จาก Fund Flow ในเดือนก.ย. ที่ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยแล้วกว่า 3 หมื่นลบ. อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจของฝั่งเอเชีย โดยเฉพาะจีน ยังมีแนวโน้มอ่อนแอ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
โดยล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ มอง SET จะเคลื่อนไหว Sideway Up แต่เริ่มมี Upside จำกัดในช่วงสั้น ทั้งนี้คาดเม็ดเงินลงทุนไหลจะเข้าในกลุ่ม Defensive และหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้
1. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งเทคนิคมีสัญญาณกลับตัว และ Valuation ยังไม่แพง โดยซื้อขายที่ PER และ PBV ต่ำกว่า -1SD แนะนำ AOT CRC AWC BCH BEM
2. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งได้อานิสงส์บวกจากสถานการณ์น้ำท่วม แนะนำ HMPRO GLOBAL CPALL BJC DCC และ TASCO ซึ่งสถิติปี 2553-2566 (เฉพาะปีที่เกิดน้ำท่วมในภาวะ La Nina ยกเว้นปี 2563 ซึ่งเผชิญวิกฤต COVID-19) พบว่าหากซื้อลงทุนช่วงครึ่งหลัง ก.ย. และขายต้น พ.ย. คาดหวังจะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 5.0%
3. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรจากอานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง กลุ่มเช่าซื้อ (MTC TIDLOR) อสังหาฯ (AP) ค้าปลีก (CPALL) โรงไฟฟ้า (GULF) REITS (LHHOTEL DIF)
4. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากกองทุนวายุภักษ์รอบใหม่ โดยเลือกหุ้น SET100 ที่มีคุณสมบัติ 1) จ่ายเงินปันผลดี โดยให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% 2) มี ESG Ratings สูงตั้งแต่ระดับ A-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว และ 3) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก KTB BBL BCP ADVANC HMPRO
รู้จัก "รัฐจ่าย" แอปพลิเคชันตรวจสอบสิทธิรับเงิน 10,000 บาท
ตรวจสอบสิทธิกลุ่มเปราะบาง-ผู้พิการ รับเงิน 10,000 บาท ดิจิทัลวอลเล็ต
สงครามอิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ เข้าสู่โหมด “ชำระแค้น”
ส่วน Top Picks วันนี้
GULF: มองกำไรจะเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากกำลังการผลิตใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่ม: GDP หน่วยที่ 4 (662.5MW, เริ่มเดินเครื่อง ต.ค. 67) และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์หลายโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา อีกทั้งยังมีมุมมองเชิงบวกต่อดีลควบรวมระหว่าง GULF กับ INTUCH ขณะที่ Valuation น่าสนใจ ซื้อขาย PER 28 เท่า (-1.0 SD) อีกทั้งยังได้ประโยชน์ผลตอบแทนพันธบัตรลดลง
AOT: มองราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวหลังปลดล็อก overhang หยุดประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้าไปแล้ว ขณะที่กำไรยังมีแนวโน้มปรับขึ้นสอดคล้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่เติบโต โดยประเมินกําไรปกติ 4QFY67 (ก.ค.-ก.ย. 67) จะเติบโต YoY และปี FY2567 มีกำไรปกติที่ 1.93 หมื่นลบ. เติบโตเด่น 109%YoY