ค่าเงินบาทเปิด 33.67 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.67 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง”
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.67 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.64 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันอังคารที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวอ่อนค่าลงบ้าง ในลักษณะ Sideways Up (กรอบการเคลื่อนไหว 33.61-33.74 บาทต่อดอลลาร์) ตามจังหวะการแข็งค่าขึ้นบ้างของเงินดอลลาร์

ที่มาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาท
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับที่ 3 อิทธิพลพายุ “จ่ามี” ฝนถล่มไทย 26-29 ต.ค. นี้
เช็กชื่อ 7 จำเลยคดีตากใบ! ที่ยังจับดำเนินคดีไม่ได้
ตาราง MotoGP 2024 ! โปรแกรมถ่ายทอดสด โมโตจีพี 2024 พร้อมลิงก์ดูโมโตจีพี
ทว่า การอ่อนค่าของเงินบาทก็เริ่มชะลอลง หลังเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ พลิกกลับมาย่อตัวลงบ้าง เปิดโอกาสให้ราคาทองคำสามารถรีบาวด์ขึ้นราว +10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จนกลับมาแกว่งตัวแถวโซน 2,730-2,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นอกจากนี้ แรงขายเงินดอลลาร์ ในจังหวะที่เงินบาทอ่อนค่าลงเข้าใกล้โซนแนวต้าน จากบรรดาผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็พอช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้เช่นกัน
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท แม้ว่า เรายังคงมั่นใจต่อแนวโน้มการทยอยอ่อนค่าลงของเงินบาท ทว่าโมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทก็ชะลอลงบ้าง หลังผู้เล่นในตลาดต่างทยอยขายเงินดอลลาร์ในช่วงวันก่อนหน้า อีกทั้ง ราคาทองคำก็ยังคงมีจังหวะรีบาวด์ขึ้นบ้าง ทำให้ในระยะสั้น เงินบาทก็อาจแกว่งตัวในกรอบ sideways ในช่วง 33.55-33.85 บาทต่อดอลลาร์ ไปก่อนได้ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม
ทว่า ในช่วงนี้ เราคงมองว่า เงินบาทก็อาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าอยู่ ตามแนวโน้มการปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์ โดยเงินดอลลาร์อาจยังพอได้แรงหนุนจากทั้งธีม US Exceptionalism ตราบใดที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดูดีและโดดเด่นกว่าประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ อย่างที่ได้เห็นจากรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการล่าสุด รวมถึงธีม Trump Trades หรือการปรับลดความเสี่ยงก่อนรับรู้ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่งอาจเห็นทั้งการปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ พร้อมกับการปรับตัวลงของบรรดาสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น นอกจากนี้ บรรยากาศในตลาดการเงินที่ยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงมากนัก อีกทั้งธีม Trump Trades ก็อาจกดดันสินทรัพย์ฝั่งตลาดเกิดใหม่เอเชีย (EM Asia) ได้ ทำให้ เงินบาทก็อาจเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติม จากแรงขายสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้นจากบรรดนักลงทุนต่างชาติ
ทั้งนี้ เราคงประเมินว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากราคาทองคำก็ยังมีโอกาสรีบาวด์สูงขึ้น หลังผู้เล่นในตลาดยังคงต้องการถือทองคำในช่วงเผชิญความไม่แน่นอนของทั้งการเลือกตั้งสหรัฐฯ สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน อีกทั้ง ผู้เล่นในตลาดบางส่วน อาจรอทยอยขายเงินดอลลาร์ ในจังหวะที่เงินบาทอ่อนค่าลงแถวโซนแนวต้าน 33.85 บาทต่อดอลลาร์ (แนวต้านถัดไปจะอยู่ในช่วง 34.00 บาทต่อดอลลาร์)
ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงในตลาด ลักษณะ Two-Way Volatility ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสหรัฐฯ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ในตะวันออกกลาง รวมถึงการปรับมุมมองต่อแนวโน้มนโยบายการเงินของบรรดาธนาคารกลางไปมา ทำให้เรายังคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.60-33.80 บาท/ดอลลาร์