หุ้นไทยวันนี้ โบรกฯ มอง ฟื้นตัวจำกัด ยังดูมี Downside
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ ตลาดยังขาดปัจจัยหนุนและดอลลาร์ที่แข็งค่า กดดันเงินบาทให้อ่อนค่า เป็นลบต่อทิศทาง Fund Flow ให้ไหลออก
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ตลาดยังขาดปัจจัยหนุนและดอลลาร์ที่แข็งค่า กดดันเงินบาทให้อ่อนค่า เป็นลบต่อทิศทาง Fund Flow ให้ไหลออก รวมถึงกังวลนโยบายทรัมป์กระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ
และเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่ฟื้นตัว ปัจจัยลบต่างๆ ทำให้ดัชนียังดูมี Downside โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1450 และ 1440 จุด ตามลำดับ ส่วนการฟื้นตัวถูกจำกัดที่แนวต้าน 1465-1470 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
แม้ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideways Up โดยปัจจัยลบที่มีต่อเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศมีค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ดีคาดเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะยังชะลอตัวลง ทำให้แนวโน้มกาปรับลดดอกเบี้ยยังไม่เปลี่ยนแปลง รวมไปถึงความชัดเจนในการดำเนินนโยบายของทรัมป์ซึ่งเป็นปธน. สหรัฐฯ หลังการเลือกตั้งน่าจะยังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ผลกระทบจากความคาดหวังของนโยบบายรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจมหาภาคจะทำให้ตลาดมีความผันผวนสูงและอาจจะส่งผลกับทิศทาง Fund Flow โดยเฉพาะนโยบายระหว่างประเทศที่มีต่อจีน ส่วนปัจจัยในประเทศคาดจะถูกขับเคลื่อนด้วยการเข้าสู่ช่วงโค้งสัปดาห์สุดท้ายของการประกาศงบ 3Q67 กลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”
วันหยุดปีใหม่ 2568 เพิ่มวันหยุดพิเศษ วางแผนหยุดยาว 5 วันรวด
หนุ่ม กรรชัย แฉ!คลิปนักร้องชื่อดัง ตบทรัพย์ดิไอคอน 20 ล้าน
ตารางการประกวด "Miss Universe 2024" เช็ก 3 รอบสำคัญ เชียร์ "โอปอล สุชาตา" คว้ามง!
ล็อกเป้าลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideways Up หลังปัจจัยลบในและต่างประเทศค่อนข้างจำกัด โดยในประเทศคาดจะถูกขับเคลื่อนด้วยการเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศงบ 3Q67 กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play สำหรับเก็งกำไรระยะสั้นในโค้งสุดท้ายของการประกาศงบ 3Q67 ซึ่งคาดกำไรจะเติบโตดี YoY และเราแนะนำ Outperform เลือก AWC BDMS TIDLOR CPALL BEM AOT
2. หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกหลังทรัมป์คว้าชัยชนะเป็นปธน. สหรัฐฯ – AMATA WHA (นโยบายกำแพงภาษี-ย้ายฐานการผลิต), CPF AOT MINT (นโยบายลดภาษี-เพิ่มกำลังซื้อ และได้ประโยชน์จากดอลลาร์แข็งค่า)
3. หุ้นที่ปันผลสูงและคาดได้อานิสงส์เป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนลดหย่อนภาษี แนะนำหุ้น SET100 ที่มี Div. Yield ขั้นต่ำ 3.5%, ESG Rating และ CG สูง, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และเติบโตในปี 2025 เลือก BBL ADVANC HMPRO BCP ทั้งนี้แนะนำรอซื้อเมื่ออ่อนตัว หลังราคาหุ้นปรับขึ้นมาแรงในช่วงที่ผ่านมา
4. สำหรับนักลงทุนที่ยังกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลางและต้องการหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP
หุ้นเด่นวันนี้
AWC: 3Q67 กำไรปกติอยู่ที่ 288 ลบ. เพิ่มขึ้น 129%YoY และ 42%QoQ แรงหนุนจากธุรกิจโรงแรมและการบริการที่แข็งแกร่งขึ้นและค่าใช้จ่ายภาษีที่ลดลง ขณะที่มองกำไรจะแข็งแกร่งต่อเนื่องใน 4Q67 หนุนให้ปี 67 คาดมีกำไรปกติเติบโต 57%YoY และโตต่อ 23%YoY ในปี 2568 จากการดำเนินงานโรงแรมที่ดีขึ้น ซึ่งโมเมนตัมกำไรที่แข็งแกร่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น
BBL: เป็นหุ้นที่เราแนะนำซื้อเพียงตัวเดียวในกลุ่มธนาคาร โดยมองมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นจาก 1) Valuation ถูกที่สุดในกลุ่มธนาคาร 2) Credit Cost มีแนวโน้มปรับตัวลดลง พร้อมกับมี Upside จาก THAI 3) สินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตสูงที่สุดในกลุ่ม 4) มี Upside สำหรับ NIM และ 5) มีความเป็นไปได้สูงหรือมี Upside ที่จะปรับอัตราการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น