IPO Southeast Asia ปี 67 “ซบเซา” มีแนวโน้มฟื้นตัวปีหน้า
ดีลอยท์ เผยตลาด IPO ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2567 ยังซบเซา แต่มีแนวโน้มฟื้นตัวในปี 2568
ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 ตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้กับสาธารณะชน (IPO) 122 บริษัท โดยระดมทุนได้ประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้จำนวนการเสนอขายหุ้น IPO ยังมีปริมาณสูง แต่จำนวนเงินที่ระดมทุนได้มีมูลค่าต่ำสุดในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา โดยลดลงจาก 5,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการเสนอขายหุ้น IPO 163 บริษัทในปี 2566 ปัจจัยสำคัญเกิดจากขาดการเสนอขายหุ้น IPO ขนาดใหญ่

ในปี 2567 มีการเสนอขายหุ้น IPO ของบริษัทเดียวเท่านั้นที่ระดมทุนได้เกินกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ปี 2566 มีการเสนอขายหุ้น IPO ขนาดใหญ่ถึง 4 บริษัท
"พิชัย" เผย โอนเงิน 10,000 บาท เฟสสอง ให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่เกินตรุษจีน 68
วันหยุดธันวาคม 2567 เช็กวันสำคัญ - วางแผนลา หยุดยาวได้มากถึง 11 วัน
5 สิ่งใหม่ คาดมาใน Samsung Galaxy S25 Ultra
ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกและการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สร้างความท้าทายให้กับตลาดทุนทั่วโลก มาเลเซียกลับโดดเด่นในการเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ จำนวนการเสนอขายหุ้น IPO มูลค่าการระดมทุน และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด
หมวดอุตสาหกรรมหลักที่ครองตลาดในภูมิภาคนี้ ได้แก่ หมวดอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค และทรัพยากรและพลังงาน คิดเป็น 52% ของจำนวนบริษัทที่มีการเสนอขายหุ้น IPO ทั้งหมด และ 64% ของมูลค่าการระดมทุน IPO ทั้งหมดตามลำดับ
หมวดอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค
ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้การแข่งขันในตลาดท้องถิ่น ภูมิภาค และระดับโลกทวีความรุนแรงมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ได้รับแรงขับเคลื่อนจากการเติบโต GDP ในภูมิภาค นำไปสู่การขยายตัวของชนชั้นกลางที่มีฐานะมั่งคั่งมากขึ้นและมีกำลังซื้อที่สูงขึ้น เมื่อระดับรายได้เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคเหล่านี้สามารถตัดสินใจเลือกสินค้าที่ตรงกับความต้องการได้มากขึ้น เลือกซื้อผลิตภัณฑ์พรีเมียม และแสวงหาประสบการณ์ใหม่ ๆ
หมวดอุตสาหกรรมพลังงานและทรัพยากร
โดยเฉพาะพลังงานหมุนเวียน ยังเป็นจุดสนใจหลักของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากภูมิภาคกำลังเผชิญความท้าทายในการรักษาความมั่นคงด้านพลังงาน ความเท่าเทียม และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันต้องเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ทรัพยากรที่ยั่งยืนมากขึ้น พร้อมสร้างสมดุลระหว่างการตอบสนองความต้องการด้านพลังงานที่เพิ่มมากขึ้น

เท ฮวี ลิง ลีดเดอร์ ที่ปรึกษาด้านบัญชีและรายงานทางการเงิน ประจำ ดีลอยท์ เซาท์อีสท์ เอเชีย กล่าวว่า ตลาด IPO ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผชิญกับความท้าทายสำคัญในปี 2567 รวมถึงความผันผวนค่าเงิน ความแตกต่างของกฎระเบียบแต่ละประเทศในภูมิภาค และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ กระทบต่อการค้า-การลงทุน อัตราดอกเบี้ยที่สูงในภูมิภาคอาเซียนยังจำกัดการกู้ยืมของบริษัท ทำให้การเสนอขายหลักทรัพย์ต่อสาธารณะครั้งแรกชะลอตัว เนื่องจากบริษัทเหล่านี้เลือกที่จะเลื่อนการเสนอขายหุ้นออกไป
นอกจากนี้ความผันผวนของตลาดในประเทศคู่ค้าหลักยังกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน ขณะที่ข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่แตกต่างกันแต่ละประเทศในภูมิภาคทำให้เกิดความซับซ้อนสำหรับบริษัทที่ต้องการเสนอขายหุ้นข้ามประเทศ
บริษัทที่ต้องการเสนอขายหุ้นข้ามประเทศต้องพิจารณาถึงตลาด IPO ที่เป็นตัวแทนของการเติบโตของธุรกิจตนเอง โดยตลาดนั้นจะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจและประเมินรูปแบบธุรกิจได้ดี เนื่องจากมีบริษัทจดทะเบียนที่คล้ายคลึงอยู่ นอกจากนี้ควรพิจารณาตลาด IPO ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์เฉพาะภาคธุรกิจ เพื่อดึงดูดนักลงทุนในภาคธุรกิจของตน.....เท ฮวี ลิง กล่าว
ภาพรวมตลาดในมาเลเซีย
หว่อง การ์ ชุน พาร์ทเนอร์ บริการสนับสนุนด้านบัญชีสำหรับรายการทางธุรกิจ ดีลอยท์ มาเลเซีย กล่าวว่าปี 2567 เป็นปีที่โดดเด่นสำหรับตลาด IPO ของมาเลเซีย มีการเสนอขายหุ้น IPO ทั้งหมด 46 บริษัท สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2549 เพิ่มขึ้นจาก 32 บริษัท ในปี 2566 มูลค่าการระดมทุนรวมผ่านการเสนอขายหุ้น IPO อยู่ที่ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2560 ขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 6,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน และสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2556
ตลาดหลักทรัพย์ ACE ของมาเลเซีย ยังครองส่วนแบ่งการเสนอขายหุ้น IPO ในปีนี้ โดยมีการเสนอขายหุ้น IPO 34 บริษัท สูงสุดนับตั้งแต่เปิดตัวตลาด ACE ในปี 2552 โดยรวมแล้วทั้ง 3 ตลาดหลักทรัพย์ของมาเลเซียมีผลงานดีกว่าปีก่อน
ตลาด IPO ของมาเลเซียแสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ได้รับแรงหนุนจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจเชิงบวก ความมั่นคงทางการเมือง และการมีส่วนร่วมจากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเพิ่มความคึกคักให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศมาเลเซีย มีการจองซื้อเกินจำนวนกว่า 200 เท่า เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการจดทะเบียนบริษัทในภูมิภาค.....หว่อง การ์ ชุน กล่าว

ภาพรวมตลาดในประเทศไทย
นางวิลาสินี กฤษณามระ พาร์ทเนอร์ บริการสนับสนุนด้านบัญชีสำหรับรายการทางธุรกิจ ดีลอยท์ ประเทศไทย กล่าวว่า แม้จำนวนการเสนอขายหุ้น IPO ในไทยจะลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีเพียง 29 บริษัทในปี 2567 เงินที่ระดมทุนได้ทั้งหมดอยู่ที่ 756 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 26% ของจำนวนเงินที่ระดมทุนในภูมิภาค ทำให้ไทยติดหนึ่งในสามของตลาด IPO ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แม้ความท้าทายจากการแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังคงอยู่ แต่ตลาดทุนเติบโตและฟื้นตัว ได้รับแรงหนุนจากการกำกับดูแลที่ดีและความมั่นคงทางการเมือง เปิดโอกาสให้ตลาดในไทยโดยมีจำนวน IPO ที่จะเกิดขึ้น ที่จะมาจากหมวดอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจวิทยาศาสตร์ชีวภาพและการแพทย์ และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
ปี 2567 ภูมิทัศน์ของตลาดหลักทรัพย์ในไทย และการเสนอขายหุ้น IPO สะท้อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการเติบโตในระดับปานกลาง หลายบริษัทยืดหยุ่นและมีความพร้อมสำหรับอนาคต ด้วยการนำ GenAI และวิทยาการหุ่นยนต์มาใช้ในธุรกิจ อีกทั้งหน่วยงานกำกับดูแลเพิ่มความโปร่งใสของตลาด และสนับสนุนธุรกิจใหม่ รวมถึง SMEs เพื่อกระตุ้นกิจกรรมการระดมทุนเพิ่มเติม.....นางวิลาสินี กล่าว
ภาพรวมตลาดในอินโดนีเซีย
จัสมิน มารานาน ที่ปรึกษาด้านตลาดทุน ประจำ ดีลอยท์ อินโดนีเซีย กล่าวว่า ตลาด IPO ของอินโดนีเซียถดถอย มีการเสนอขายหุ้น IPO 39 บริษัท ระดมทุนได้ 368 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2567 เมื่อเทียบกับการเสนอขายหุ้น IPO 79 ครั้ง ระดมทุนได้ 3,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดทั้งปี 2566 บริษัทขนาดเล็กเปิดตัวการเสนอขายหุ้น IPO ด้วยเป้าหมายการระดมทุนที่เน้นความมั่นคงมากขึ้น เนื่องจากปี 2567 เป็นปีการเลือกตั้งในประเทศ บวกกับความไม่แน่นอนที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากปัจจัยลบของตลาดโลก
สำหรับการเสนอขายหุ้น IPO 10 อันดับแรกที่ระดมทุนได้สูงสุด พบว่าหมวดอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค และทรัพยากรและพลังงาน มีสัดส่วนถึง 9 ใน 10 ของการระดมทุนทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมเหล่านี้ โดยเฉพาะหมวดอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคที่สร้างความมั่นคงได้ในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวน เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากฐานผู้บริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ขณะเดียวกันหมวดอุตสาหกรรมพลังงานและทรัพยากร ยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของตลาด IPO ในอินโดนีเซีย แม้จำนวนการเสนอขายหุ้น IPO โดยรวมจะลดลงเมื่อเทียบกับปี 2566
ขณะที่ตลาดในประเทศรอความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายการคลังและการเงินภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ แนวโน้มทางเศรษฐกิจและการเติบโตในประเทศยังเป็นไปในทางบวก ได้แรงหนุนจากโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลเป็นผู้นำ และการริเริ่มการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ แนวโน้มด้านประชากรศาสตร์ที่ดี และทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้หน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนยังเพิ่มความน่าสนใจและสภาพคล่องของตลาด เพื่อกระตุ้นการจดทะเบียนในปี 2568.....จัสมิน กล่าว
ภาพรวมตลาดในเวียดนาม
วัน ทรินห์ บุย ลีดเดอร์ บริการสนับสนุนด้านบัญชีสำหรับรายการทางธุรกิจ ดีลอยท์ เวียดนาม กล่าวว่า ในช่วง 10 เดือนครึ่งของปี 2567 เวียดนามเสนอขายหุ้น IPO เพียง 1 ราย ระดมทุนได้ประมาณ 37 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่น่าทึ่งคือ IPO รายนี้เป็นการระดมทุนครั้งแรกในหมวดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการเงินของเวียดนาม และมีผลตอบแทนเหนือกว่าตลาดหุ้นเวียดนามตลอดทั้งปี 2566 และมากกว่ามูลค่าเฉลี่ยของ IPO ตั้งแต่ปี 2564-2566 ถึงประมาณ 5 เท่า
ตลาดหุ้นเวียดนามกำลังแสดงสัญญาณฟื้นตัวในปี 2567 ได้แรงหนุนจากสภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่เอื้ออำนวยและสภาพแวดล้อมดอกเบี้ยต่ำ นอกจากนี้รัฐบาลออกกฎระเบียบใหม่โดยปรับปรุงการจัดอันดับของตลาดหุ้นเวียดนาม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในปี 2568.....วัน ทรินห์ บุย กล่าว
ภาพรวมตลาดในสิงค์โปร์
แดเรน อึ้ง พาร์ทเนอร์ บริการสนับสนุนด้านบัญชีสำหรับรายการทางธุรกิจ ดีลอยท์ สิงค์โปร์ กล่าวว่า ในช่วง 10 เดือนครึ่งของปีนี้ สิงค์โปร์เสนอขายหุ้น IPO บนกระดาน Catalist 4 บริษัท ระดมทุนได้ประมาณ 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยทั้ง 4 บริษัทที่อยู่ในหมวดอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ชีวภาพและการแพทย์ นอกจากนี้ยังจดทะเบียนหลักทรัพย์ในตลาดรอง 2 บริษัท จากตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ได้แก่ Helens International Holdings ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งการลงทุนของจีนที่ดำเนินธุรกิจบาร์และแฟรนไชส์เป็นหลัก และ PC Partner Group Limited ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์
ดูเหมือนว่าจะมีความสนใจใน REITs เพิ่มขึ้นในสิงค์โปร์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกมีเสถียรภาพ ความต้องการสินทรัพย์สร้างรายได้อย่าง REITs ของนักลงทุนคาดว่าจะแข็งแกร่งขึ้น ทำให้สิงค์โปร์ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสำหรับ REITs ในเอเชีย ดึงดูดทั้งผู้ลงทุนในและต่างประเทศที่ต้องการเข้าถึงตลาดที่มีการกำกับดูแลที่ดีและมีสภาพคล่องสูง.....แดเรน อึ้ง กล่าว

ภาพรวมตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมื่อมองไปยังอนาคตของตลาด IPO ในภูมิภาค อัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะลดลงควบคู่กับอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง อาจสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเสนอขายหุ้น IPO ในปีต่อ ๆ ไป ฐานผู้บริโภคที่แข็งแกร่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเพิ่มขึ้นของชั้นกลาง และความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในภาคต่าง ๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ สุขภาพ และพลังงานหมุนเวียน ยังคงดึงดูดนักลงทุน ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศยังคงไหลเข้าสู่ภูมิภาคนี้ ปี 2568 จึงมีแนวโน้มที่จะเป็นปีแห่งการฟื้นตัวของกิจกรรม IPO ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้