แนะ ไทยพิจารณานำบิตคอยน์ ส่วนหนึ่งทุนสำรองประเทศคู่ ทองคำ-สกุลเงินหลัก
บิทคับ แนะ ไทยควรพิจารณานำบิตคอยน์ เป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองประเทศ คู่กับทองคำ สกุลเงินหลักที่มีอยู่เดิม เพื่อรักษาความได้เปรียบในเวทีการเงินโลก
นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา เผย ผ่านนิตยสาร Forbes Thailand โดยแนะนำว่า ประเทศไทยควรพิจารณาเพิ่มบิตคอยน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในทุนสำรองของประเทศ ควบคู่ไปกับทองคำและสกุลเงินหลักที่มีอยู่เดิม โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทุนสำรองทั้งหมด และไม่ควรรอจนกระทั่งต้นทุนสูงขึ้น เพราะต้องแบกรับต้นทุนมากขึ้นมาก
ดังนั้น หากเริ่มต้นเร็วจะสร้างความได้เปรียบในระยะยาว ตามหลายปัจจัยส่งเสริมในขณะนี้ อย่างการเข้ามาดำรงตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์

ซึ่งมีแผนที่จะผลักดันการถือครองบิตคอยน์ จำนวน 1 ล้าน BTC เป็นทุนสำรองของประเทศ ซึ่งอาจทำให้ประเทศอื่นๆ ต้องเร่งปรับตัวเริ่มพิจารณาถือครอง รวมถึงปี 2568 ที่จะเป็นปีทองของสินทรัพย์ดิจิทัล เพราะเป็นช่วง wave ที่ 4 ของคริปโทเคอร์เรนซีที่ตามสถิติแล้วจะเกิดขึ้นทุก 4 ปี
ขณะเดียวกัน การเป็นมีการผลักดันให้เป็น Financial Platform of the Future เหมือน Facebook ของวงการการเงิน ที่ครอบคลุมบริการทั้งการโอนเงินข้ามประเทศและการระดมทุนผ่าน Digital asset exchange เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล
นายจิรายุส ยังเสนอให้จัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะ เช่นเดียวกับ ก.ล.ต. ดิจิทัลในดูไบ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการพัฒนาอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลของไทย พร้อมชี้ว่าแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยจีนมีสัดส่วน GDP จากเศรษฐกิจดิจิทัลถึง 44% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 50% ในปีนี้ ขณะที่เวียดนามมีสัดส่วนอยู่ที่ 17%