ตลาดหุ้นยัง “ผันผวน” และกรอบบนยังถูกจำกัด แนะนำ KTB, PTTEP
InnovestX มองตลาดหุ้นวันนี้ (5 ก.พ. 68) SET เคลื่อนไหวผันผวน ท่ามกลางการเริ่มต้นสงครามการค้าสหรัฐฯ – จีน ตลาดขาดปัจจัยหนุน กรอบบนยังถูกจำกัด
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) วิเคราะห์ตลาดหุ้นวันนี้ (5 ก.พ. 68) คาด SET เคลื่อนไหวผันผวน ท่ามกลางการเริ่มต้นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจีนประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ 15% จากก่อนหน้าที่สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าจากจีน 10% ขณะที่ตลาดยังดูขาดปัจจัยหนุน ทำให้กรอบบนยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1312 และ 1320 จุดตามลำดับ ด้านแนวรับอยู่ที่ 1280-1290 จุด หากต่ำกว่าเป็นสัญญาณลบต่อ

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1350 จุด แม้ภาพการลงทุนในตลาดต่างประเทศจะได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และผลประกอบการนอกกลุ่มการเงินของ บจ.สหรัฐที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจากการปรับลดดอกเบี้ยที่ค่อยเป็นค่อยไป แต่ในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่มาช่วยหนุนบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทย
ทั้งนี้สถานการณ์การส่งออกไทยน่าจะมีความเสี่ยงมากขึ้นจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐและเงินเฟ้อที่ต่ำ ทำให้เศรษฐกิจไทยยังไม่โดดเด่นมากนัก ส่งผลให้ผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยยัง Underperform ตลาดหุ้นทั่วโลก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

Daily top picks
KTB : มองเป็นหุ้นปันผลสูงซึ่งสามารถสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนภายใต้ภาวะตลาดหุ้นไทยที่ยังรอคอยปัจจัยชี้นำใหม่ๆ โดยคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2567 หุ้นละ 1.10 บาท (จ่ายปีละครั้ง) คิดเป็น Div. Yield สูงปีละ 4.7% ขณะที่ปี 2569 คาดกำไรจะเติบโตต่อเนื่องอีก 2%YoY แรงหนุนจากการเติบโตของสินเชื่อและ Credit Cost ที่ลดลง
PTTEP : มองราคาน้ำมันมีโอกาสปรับขึ้นระยะสั้นหลังปธน. สหรัฐฯ ออกมาตรการเพื่อกดดันการส่งออกน้ำมันอิหร่านให้ลดลงเหลือศูนย์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น แม้กำไรปี 2568 คาดจะอ่อนแอ YoY แต่ยังมีงบดุลแข็งแกร่งและเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากความไม่สงบในตะวันออกกลาง ทั้งนี้วันนี้แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรราคาไม่เกิน 124.50 บาท

ประเด็นสำคัญ
- จีนประกาศเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซ LNG จากสหรัฐฯ ในอัตรา 15% และน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท 10% มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. ตอบโต้การเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
- ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งใช้มาตรการกดดันทางเศรษฐกิจขั้นสูงสุดต่ออิหร่านเพื่อลดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านเหลือศูนย์ และเผยว่าต้องการทำข้อตกลงกับยูเครน โดยขอการเข้าถึงแร่ธาตุหายากและทรัพยากรอื่นๆ เพื่อแลกกับความช่วยเหลือด้านสงคราม
- FETCO เผยสภาตลาดทุนอยู่ระหว่างเตรียมเข้าหารือกับรมว. คลัง เพื่อรายงานความคืบหน้าการขายกองทุน TESG ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงประเด็นกองทุน TESG ลงทุนในบอนด์มากกว่าหุ้น ESG ซึ่งอาจต้องหารือกันต่อว่าทำอย่างไรจะส่งเสริมให้มีการลงทุนในหุ้น ESG มากขึ้น
- จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตั้งแต่ 1 ม.ค.-2 ก.พ. ที่ 3,967,469 คน สร้างรายได้ราว 1.95 แสนลบ. โดย จำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อัน ดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย
- ครม. มีมติเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ. Financial Hub หนุนการออกใบอนุญาตและกำกับดูแลมีความครบวงจร เป็นสากล และเอื้อต่อการประกอบธุรกิจ หวังเป็นผู้นำการเงินและเพิ่มความสามารถการแข่งขัน
- ครม. อนุมัติดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงเฟสสอง นครราชสีมา-หนองคาย วงเงิน 3.41 แสนลบ. ระหว่างปีงบฯ 2568-75
- พาณิชย์เผยมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรปี 2567 เกิน 3 แสนล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกหรือ +5.4% ซึ่งพึ่งพาสินค้าไม่กี่รายการ 5 อันดับแรกคือ ผลไม้, ข้าว, ยางพารา, ไก่, อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์หลังไร้ปัจจัยหนุนใหม่ โดยมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1350 จุด กลยุทธ์ลงทุนแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 2 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้
- หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคของรัฐอย่าง Easy E-Receipt ในช่วง 16 ม.ค.-28 ก.พ. 2568 และแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้ผู้สูงอายุ แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CRC HMPRO TNP) กลุ่มท่องเที่ยว (MINT AWC ERW AOT)
- นักลงทุนที่ต้องการหุ้นปันผลสูงซึ่งคาดมีเงินปันผลจ่ายที่เหลือจากกำไรปี 2567 คิดเป็น Div. Yield เกิน 3% เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุน แนะนำ AP KTB BBL PTT
- หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนกำไร 4Q67-1Q68 ที่คาดจะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ เลือก ADVANC TRUE AMATA TIDLOR MTC AU HTC
- Trading Idea : นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรใน 1) หุ้นที่คาดมีโอกาสเพิ่มอัตราการจ่ายปันผล หรือ ซื้อหุ้นคืน เนื่องจากมี PBV ต่ำกว่า 1 เท่า และมีสภาพคล่องทางการเงินสูง เลือก PTT KBANK BBL และ 2) หุ้น Mid-Small Cap. ที่ราคาหุ้นปรับลง YTD มากกว่าตลาด แต่ 4Q67 และปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตดีและมีฐานะการเงินแกร่ง เลือก AMATA AU BCH BLA TIDLOR