“Estee Lauder” จ่อเลิกจ้างพนักงาน 7,000 คน หลังยอดขายลดลง
บริษัท Estee Lauder อาจปลดพนักงานกว่า 7,000 คน เพื่อปรับรูปแบบการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังไตรมาสล่าสุดขาดทุน
Estee Lauder บริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอางระดับโลก อาจเลิกจ้างพนักงานมากถึง 7,000 คนภายในปีงบประมาณ 2026 หรือคิดเป็นมากกว่า 11% ของพนักงานทั้งหมดทั่วโลก หลังจากบริษัทขาดทุนในไตรมาสล่าสุด โดยรายงานยอดขายลดลง 6%
บริษัทที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์ดังอย่าง MAC, La Mer และ Aveda รายนี้ ปรับลดแนวโน้มกำไรลง เนื่องจากเศรษฐกิจของจีนและเกาหลีชะลอตัวลง นอกจากนี้ ยังมีความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ระดับโลกอีกด้วย

โดยเมื่อวันที่ 4 ก.พ. จีนประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าบางรายการฯ และสอบสวนการผูกขาดของ Google เพื่อตอบโต้นโยบายของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เรียกเก็บภาษีสินค้าจีนอย่างหนัก
Estee Lauder คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายด้านการปรับโครงสร้างและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลิกจ้างพนักงานระหว่าง 1,200-1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4-5.4 แสนล้านบาท) ก่อนหักภาษี
ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2024 Estee Lauder มีพนักงานทั่วโลกประมาณ 62,000 คน
สเตฟาน เดอ ลา ฟาเวรี ซีอีโอของบริษัท บอกว่า “เรากำลังปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานของเราอย่างมีนัยสำคัญเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวดเร็วขึ้น และคล่องตัวมากขึ้น”
บริษัทรายงานยอดขาย 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.34 แสนล้านบาท) ในไตรมาสล่าสุด ลดลงจาก 4.28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.44 แสนล้านบาท) ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ราคาหุ้นของ Estée Lauder Companies Inc. ลดลง 16% เหลือ 69.47 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,340 บาท) ในวันที่ 4 ก.พ. ซึ่งถือเป็นการร่วงลงในวันเดียวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี
เรียบเรียงจาก Associated Press