ราคาทองวันนี้ (11 ก.พ. 2568) ปิดการซื้อขายในประเทศ "ขึ้น 250 บาท"

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงทำ All-time high ต่อเนื่อง และยืนเหนือ  2,900 ดอลลาร์ จากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ยกระดับมากขึ้น

• ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 46,750.00 บาท/บาททองคำ และขายออก 46,850.00 บาท/บาททองคำ
• ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 45,904.48 บาท/บาททองคำ และขายออก 47,350.00 บาท/บาททองคำ
• ทอง 1 สลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 12,213 บาท
• ทอง 2 สลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 23,925 บาท
• ทองครึ่งสลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 6,356 บาท

ทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 2,905.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 34.07 บาท/ดอลลาร์

ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงทำ All-time high ต่อเนื่อง และยืนเหนือ $2,900 จากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ยกระดับมากขึ้น โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมสู่ระดับ 25% โดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งหมายถึงเรียกเก็บจากทุกประเทศ ไม่ว่าจะประเทศใดก็ตาม และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค. อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นแรงของราคาทองคำ ก็ทำให้มีแรงเทขายทำกำไรออกมาบางส่วนในช่วงสายวันนี้

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ

วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงอย่างแข็งแกร่ง แต่เกิดแรงเทขายทำกำไรทำให้ราคาทองคำปรับตัวลงเข้าใกล้ระดับ Low ของวัน และแท่งเทียนวันนี้มีลักษณะคล้าย Shooting Star บ่งบอกแรงเทขายทำกำไร ทั้งนี้จับตาสัญญาณจากราคาทองคำ หากวันนี้ราคาทองคำปิดตลาดที่ราคา Low ของวัน ให้ระวังการเกิดสัญญาณกลับตัว

ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,900 และ 2,890 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,930 และ 2,942 ดอลลาร์

หากราคาสามารถยืนเหนือ $2,900 ได้ อาจเป็นสัญญาณให้ถือต่อไป และเป้าหมายต่อไปอาจอยู่ที่ $3,000 หรือสูงกว่า อย่างไรก็ตามหากมีสัญญาณกลับตัว อาจเป็นจังหวะขายทำกำไร ยังคงแนะนำฝั่งซื้อบริเวณ $2,900 โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ $2,890

ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 46,950 และ 46,850 บาท
แนวต้าน : 47,450 และ 47,550 บาท

เกิดแท่งเทียนสีแดงที่ระดับจุดสูงสุดใหม่ จากแรงขายทำกำไร อย่างไรก็ตาม MACD Line > Signal Line และค่า Histogram ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนแรงซื้อที่แข็งแกร่ง แนะนำถือต่อไป จนกว่าจะเจอสัญญาณกลับตัวอย่างชัดเจน

ที่มา : ฮั่วเซ่งเฮง