ไทยพาณิชย์ คาดปีนี้ กนง.ลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้ง พร้อม ตั้งเป้า ! ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ธุรกิจ Wealth

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวถึง ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2568  ว่าปีนี้ เศรษฐกิจไม่น่าจะแย่กว่าปีที่แล้ว เพราะมอง 3 ปัจจัยหลัก คือ 

1. พิจารณางบรายจ่ายของภาครัฐปีนี้เกิดขึ้นแล้ว ส่วนนโยบายตอบโจทย์หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง 

2. ธุรกิจที่เป็นเสาหลักของไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการท่องเที่ยว / อาหาร / โลจิสติกส์ จริงๆยังมีโอกาส แต่อาจยังมีความกังวลปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ แต่เชื่อว่า ไทยยังสามารถไปต่อได้

 

 

3. ความเข้าใจของโลกที่เปลี่ยนไปซึ่ง แต่ภาพรวมเศรษฐกิจไม่น่าจะแย่กว่าปีที่แล้ว  โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตในกรอบ 2.5 - 3% 

ส่วนความผันผวนในตลาดหลักทรัพย์ มองว่า เป็นเพียงความตกใจที่เกิดขึ้นในตลาด เชื่อว่า ภาครัฐและทุกฝ่าย จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

ส่วนนโยบายทางการเงินในปีนี้ เชื่อว่า จะอยู่ในโหมดผ่อนคลาย ถึงแม้ว่าการประชุม กนง. ครั้งต่อไปจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง แต่ปี 2568 เชื่อว่า น่าจะเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 1 ครั้งเป็นอย่างต่ำแน่นอน

สำหรับโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ตั้งเป้าไว้ว่า จะผลักดันให้มีลูกค้าเข้าร่วมโครงการ 50% ซึ่งมองว่าระยะเวลาการเข้าร่วมโครงการสั้นเกินไป และลูกค้ายังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ โดยทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้พยายามสร้างความเข้าใจในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง

คาด ปี 71 ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งทั่วโลก สินทรัพย์มากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์

ขณะที่ ภาพรวมธุรกิจบริหารความมั่งคั่งทั่วโลกและประเทศไทยเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 6% คาดการณ์ว่า ในปี 2571 ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในไทย จะมีสินทรัพย์มากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมองเห็นโอกาสตรงนี้ รวมถึงผลดำเนินงานด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งปี 2567 ยังคงมีผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย ในปี 2568 นี้ จึงวางเป้าหมายธุรกิจบริหารความมั่งคั่งภายใต้แนวคิด “Your Success. Our Success.” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า SCB WEALTH จำนวนกว่า 500,000 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ SCB PRIME, SCB FIRST และ SCB PRIVATE BANKING ทั้งด้านเป้าหมายชีวิต และเป้าหมายด้านการลงทุน
 
ทั้งหมดนี้ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายภายในปี 2569 ในการบริหารจัดการในส่วนของการลงทุน Asset Under Advisory เติบโต Double Digit จากสินทรัพย์การลงทุนภายใต้ธีม Customer Centricity เติบโตกว่า 2 เท่า (ปัจจุบัน 70,000 ล้านบาท) ลูกค้า Active ด้านการลงทุนผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มกว่า 30% (ปัจจุบัน 15%) และสินทรัพย์การลงทุนสกุลเงินต่างประเทศเติบโตกว่า 180,000 ล้านบาท