Starbucks จ่อเลิกจ้างพนักงาน 1,100 คน เซ่นยอดขายลดลงทั่วโลก

Starbucks แบรนด์ร้านกาแฟชื่อดังจากสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทจะเลิกจ้างพนักงานกว่า 1,100 คน ในหลายตำแหน่ง หลังประสบปัญหายอดขายที่ลดลงทั่วโลก

ไบรอัน นิกโคล ซีอีโอของ Starbucks ระบุในจดหมายที่ส่งไปยังพนักงานว่า “เรากำลังลดความซับซ้อนของโครงสร้างองค์กร ลบส่วนที่ซ้ำซ้อน เพิ่มความรับผิดชอบ ขับเคลื่อนการบูรณาการที่ดีขึ้น และสร้างทีมที่มีขนาดเล็กลงและคล่องตัวมากขึ้น”

นิกโคล ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นซีอีโอของ Starbucks เมื่อราว 6 เดือนก่อน ส่งผลให้หุ้นของ Starbucks พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 22% และเพิ่มขึ้นเกือบ 2% ในตลาดซื้อขายช่วงบ่าย

นิกโคล กล่าวว่า “เราจะยังคงจ้างพนักงานในตำแหน่งที่มีความสำคัญซึ่งสอดคล้องกับโครงสร้างใหม่ของเรา และสามารถเพิ่มขีดความสามารถและกำลังที่เราต้องการ" และเสริมว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อพนักงานในร้าน หรือกลุ่มผู้ลงทุนกับสตาร์บัคส์แต่อย่างใด

ปัจจุบัน Starbucks มีพนักงานประมาณ 211,000 คนในสหรัฐอเมริกา และพนักงานประมาณ 150,000 คนในต่างประเทศ ตามรายงานประจำปี 2024

จิม แซนเดอร์สัน นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยด้านการลงทุน North Coast Research กล่าวว่า "เมื่อเทียบกับการเลิกจ้างครั้งใหญ่ครั้งล่าสุดในปี 2018 จำนวน 350 คนทั่วโลก เชื่อว่าระดับการเลิกจ้างถึง 1,100 คนนั้นมีความสำคัญมาก" ซึ่งแผนเลิกจ้างดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างใหม่ภายใต้การนำของ เควิน จอห์นสัน ซีอีโอในขณะนั้น

อย่างไรก็ตาม แซนเดอร์สันตั้งข้อสังเกตว่า จำเป็นต้องทำความเข้าใจว่าส่วนหรือแผนกใดในบริษัทที่จะได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้าง และสิ่งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์การพลิกฟื้นระยะยาวของสตาร์บัคส์ทั่วโลกอย่างไร

นอกจากนี้ Starbucks ยังเผยว่าได้ลบเมนูเครื่องดื่มที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมออกไป เช่น แฟรปปูชิโน่หลายชนิด และไวต์ฮ็อตช็อกโกแลต ตามแนวทางที่ นิโคล ซีอีโอคนปัจจุบันพยายามปรับเมนูให้เรียบง่ายขึ้นด้วย

ที่มา: Reuters