บล.เอเซีย พลัส ระบุ หลัง SET ถูกถล่ม หวังแรงกดจะลดลง

บล.เอเซีย พลัส  เปิดเผยว่า ปัจจัยภายนอกวันนี้ ทั้งการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ของ FED ดูมีปัจจัยหนุนมากขึ้น โดยสังเกตุจาก 2 ประเด็นเพิ่มเติม ได้แก่ 

1. สงครามการค้ามีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น อาจนำไปสู่ความเสี่ยง RECESSION ตามมา
2. เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ก.พ. 68 ชะลอตัวลงสู่ 2.8%YOY ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาดที่ 2.9%YOY

FEDWATCH TOOL คาด FED จะเริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมรอบ 18 มิ.ย. 68 ด้วยความน่าจะเป็นเกือบ 70% และอาจเกิดขึ้น 2 ครั้งในปีนี้ (เดิมคาด 1 ครั้ง) ทำให้บ้านมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีอีก 1 ครั้งได้

 

และน่าจะเป็นบวกต่อ SET INDEX  

ส่วนปัจจัยภายในวันนี้ ตลท. เปิดเผยถึงประเภทสินทรัพย์ที่กองทุน THAI ESGX สามารถลงทุนได้ ซึ่งต้องเป็นหุ้นที่เข้าเกณฑ์ 1 ใน 3 เกณฑ์ ดังนี้  

1.เป็นบริษัทที่มีเรทติ้งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล หรือเป็นบริษัทที่ได้รับเรทติ้งด้าน SET ESG RATING หรือในระดับสากลอื่น ๆ  

2.เป็นบริษัทที่เปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก  

3.เป็นบริษัทที่มี CGR ซึ่งดำเนินการโดย สมาคมส่งเสริมสถาบัน กรรมการบริษัทไทย เกินกว่า 90 คะแนน และเปิดเผยข้อมูลใน ESG DATA PLATFORM ของตลท.เกินกว่า 85% ของไอเทม

TOP PICK เลือก BDMS, PLANB และ CPALL

กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้

เน้นหุ้นที่เข้าเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่งจาก 3 เกณฑ์เนื่องจากเป็นเป้าหมายของกองทุน THAI ESGX โดยเฉพาะหุ้นที่มี ESG RATING AAA 56 บริษัท คาดว่าจะเป็นเป้าหมายลำดับแรกๆ

โดยฝ่ายวิจัยฯ ได้กรองเพิ่มเติมว่ามีหุ้นอีกหลายบริษัทไม่มี ESG RATING และมีการเปิดเผยข้อมูลก๊าซเรือนกระจก และ/หรือ มีการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน(CGR) โดยมีอยู่ 25 บริษัทที่เป็นหุ้นขนาดกลาง ใหญ่ และราคาหุ้นปรับตัวลดลงตั้งแต่ต้นปี(YTD) เช่น  TRUE BH CCET BCP ITC TIDLOR AAV SPRC AURA DOHOME CHG RCL IRPC เป็นต้น ถือเป็นโอกาสสะสมในช่วงเวลานี้