นายกฯ เรียกคุย 3 หน่วยงาน ติดตามตลาดหุ้น - บังคับใช้กฎหมายเด็ดขาดคดีการเงิน
"แพทองธาร" เรียกคุย ก.ล.ต. - ดีเอสไอ - ตลท. ติดตามสถานการณ์หุ้น กำชับบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดคดีการเงิน หวังฟื้นความเชื่อมั่นตลาดหุ้นไทย
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Ing Shinawatra โดยได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์ตลาดหุ้น และคดีทางการเงินที่มีปัญหา เพื่อฟื้นความมั่นใจอย่างเร่งด่วนในตลาดหุ้น
นางสาวแพทองธาร ระบุว่า วันนี้ได้เชิญ รศ.ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต. , นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดี DSI เข้ามาพูดคุยติดตามเรื่องสถานการณ์ในตลาดหุ้น และ คดีทางการเงินที่เป็นปัญหา

นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำ 4 เรื่องสำคัญ ประกอบด้วย 1.กำชับและติดตามคดีที่มีผลกระทบต่อผู้คนเป็นจำนวนมากและกระทบทางเศรษฐกิจ โดยเร่งรัดติดตามให้คดีมีความคืบหน้าโดยเร็ว 2.แก้ไขกฎหมายเพื่อป้องกันการกระทำผิดในตลาดหุ้น โดยปรับปรุงกฎเกณฑ์ ยกระดับไม่ให้มีการกระทำแบบนี้เกิดขึ้นอีก เช่น ปรับปรุงกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์
3.กำชับถึงข้อกำหนดที่จะจัดการเรื่อง free float ลงโทษบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ทำผิดหลักเกณฑ์ได้ โดยการให้ออกจากตลาด และ 4.เน้นย้ำให้มีการใช้กฎหมายครบทุกมิติ เพื่อฟื้นความมั่นใจอย่างเร่งด่วนและเป็นธรรม
นางสาวแพทองธาร ระบุด้วยว่า เรื่องนี้ถือเป็นภารกิจของรัฐบาลในการสร้างความเชื่อถือและเชื่อมั่น (trust and confidence) ในด้านการใช้กฎหมายเพื่อให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจ เชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทย ให้ตลาดหุ้นไทยแข่งขันได้ในเวทีสากล
ก.ล.ต.เผย นายกฯ ติดตามคดี STARK
ด้าน นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ติดตามความคืบหน้าคดีที่มีผลกระทบทางเศรษฐกิจและส่งผลต่อคนจำนวนมาก เช่น STARK รวมทั้งติดตามมาตรการในการสร้างความน่าสนใจให้กับตลาดหุ้น และกำชับให้มีการดำเนินการอย่างเคร่งครัดกับบริษัทจดทะเบียนที่ปฏิบัติไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เช่น การกระจายการถือหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อย (free float)
โดยได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า ในช่วงที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้มีการปรับกระบวนการทำงานภายในให้กระชับและรวดเร็วขึ้น ซึ่งเห็นผลเป็นรูปธรรมว่ามีการดำเนินการที่รวดเร็วขึ้น เช่น ตั้งแต่ต้นปี 2568 ได้บังคับใช้กฎหมายจำนวน 15 กรณี โดยมีผู้กระทำผิดประมาณ 40 ราย สำหรับระยะเวลาในการดำเนินการโดยเฉลี่ยสั้นลง และบางกรณีใช้เวลาน้อยกว่า 1 ปี
นอกจากนี้ ได้ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการดำเนินมาตรการกำกับดูแลการซื้อขายในตลาดหุ้นให้เกิดความเป็นธรรมโปร่งใส รวมทั้ง ก.ล.ต. ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงหลักเกณฑ์การรายงานข้อมูลของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนกรณีนำหุ้นไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในธุรกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ลงทุนได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ รวมทั้งการปรับปรุงกฎหมายหลักทรัพย์เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุนไทยให้เข้มแข็ง