InnovestX คาด SET แกว่ง รอความคืบหน้าเจรจาภาษี “ทรัมป์”
InnovestX คาด SET แกว่งและเคลื่อนไหวในกรอบ เนื่องจากตลาดยังจับตารอดูการต่อรองภาษีกับสหรัฐฯ ของไทย รวมถึงจีน
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ ตลาดจับตาการต่อรองภาษีกับสหรัฐฯ ซึ่งไทยมีกำหนดเจรจา 23 เม.ย. นี้ ขณะที่ความกังวลสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนน่าจะผ่อนคลายลง หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุอาจสั่งปรับลดภาษีที่เก็บจีนลงเพื่อไม่ให้การค้าหยุดชะงัก
แต่คาดวันนี้มูลค่าซื้อขายน่ายังไม่หนาแน่น ตลาดต่างประเทศบางแห่งปิดทำการเนื่องในวันอีสเตอร์ ประเมินแนวรับที่ 1140-1130 จุด แนวต้านที่ 1160-1170 จุด

เนื่องจาก InnovestX มองว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนและการซื้อขายยังเป็นไปอย่างระมัดระวัง จากกังวลความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และรอติดตามการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะจีน กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลัก และ 1 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY 2) ฐานะการเงินแกร่ง และ 3) จ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาดให้ Div. Yield อย่างน้อยปีละ 3% พบหุ้นน่าสนใจ SET50: ADVANC BBL BDMS CPALL PTT และ SET100: BCH BTG
2. หุ้น Undervalued ซึ่งปัจจุบันซื้อขายที่ PER และ PBV 68F ระดับต่ำกว่า -1SD และมี SET ESG Ratings ระดับ A-AAA ขณะที่ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ดี YoY และมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง อีกทั้งมีศักยภาพจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อยปีละ 3% แนะนำ BJC CPF AP HMPRO OR
3. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไรภายใต้สงครามการค้าที่มีท่าทีรุนแรงขึ้น แนะนำ หุ้นที่มีรายได้ภายในประเทศเป็นหลักซึ่งจะต้านทานความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ดีกว่า โดยเฉพาะหากสามารถกำหนดราคาและส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ อีกทั้งคาดจะได้ประโยชน์จากการปรับลงของราคาน้ำมันและดอกเบี้ย ได้แก่ BCH CPALL CPAXT GULF MTC OR และ TRUE ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงกลุ่มที่ได้ผลกระทบทางตรงจากส่งออกไปสหรัฐ ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ยาง สินค้าเกษตร เครื่องประดับ และกลุ่มที่ได้ผลกระทบทางอ้อม ได้แก่ นิคม ท่องเที่ยว ธนาคาร
Top Picks
CPALL: มองเป็นหุ้นปลอดภัยภายใต้ตลาดผันผวนและคาดเป็นหุ้นเป้าหมายของกองทุน ThaiESGX หลังมี SET ESG Ratings “AAA” อีกทั้ง Valuation น่าสนใจ โดยซื้อขาย PER 68F ที่ 15.7 เท่า (-2S.D. จากค่าเฉลี่ย 10 ปี) ขณะที่ 1Q68 คาดกำไรปกติเติบโต 12%YoY จากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น ส่วนปี 68 คาดกำไรเติบโต 15%YoY ดีสุดในกลุ่มพาณิชย์
GULF: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจาก Bond Yield ที่ปรับลงและคาดเป็นหุ้นเป้าหมายของกองทุน ThaiESGX หลังมี SET ESG Ratings “AAA” ขณะที่ 1H68 คาดกำไรยังแข็งแกร่งจากขยายกำลังผลิต ส่วนการควบรวมกิจการกับ INTUCH ที่เสร็จสิ้นไปแล้วจะทำให้งบดุลบริษัทดีขึ้น เพิ่มศักยภาพในการกู้ยืม และช่วยลดต้นทุนดอกเบี้ยในระยะกลาง