GCAP GOLD มองปัญหานโยบายการค้าสหรัฐฯ ไม่จบ ลุ้นทองไปต่อ 53,300 บาท
GCAP GOLD มองราคาทองคำแท่งผันผวนสูง จับตานโยบายการค้าสหรัฐฯ เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ล่าสุด ทรัมป์ เตรียมหารือ สีจิ้นผิง ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาทางออกด้านการเก็บภาษี
นางสาว อารีรัตน์ มุราชัย นักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มผันผวนสูง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ ที่ยังเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา หลัง ปธน. ทรัมป์ ได้ออกมาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจาก 25% เป็น 50% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มิ.ย. นี้ พร้อมทั้งได้เร่งรัดให้ประเทศคู่ค้ายื่นข้อเสนอทางการค้าที่ดีที่สุดในวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา

เพื่อเร่งรัดการหารือกับหลายประเทศ ก่อนถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 8 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ก่อนที่มาตรการภาษีตอบโต้ซึ่งถูกระงับไว้จะกลับมามีผลบังคับใช้
นอกจากนี้ สถานการณ์ด้านกฎหมายก็ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด หลังจากศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐ มีคำสั่งระงับคำตัดสินของศาลการค้าระหว่างประเทศ ที่ก่อนหน้านี้สั่งให้ยกเลิกมาตรการเก็บภาษีนำเข้าซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ การระงับคำสั่งครั้งนี้เป็นการเปิดทางให้พิจารณาคำอุทธรณ์ของรัฐบาล ส่งผลให้มีแนวโน้มว่ามาตรการภาษีอาจยังคงมีผลอยู่ในบางรูปแบบ และรัฐบาลทรัมป์อาจหาวิธีใหม่ในการเดินหน้าจัดเก็บภาษีนำเข้าต่อไป
ขณะเดียวกันยังต้องจับตาความคืบหน้าการหารือกันในระดับผู้นำของสหรัฐฯและจีน ที่อาจจะเกิดขึ้นภายในสัปดาห์นี้ ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ออกมาเปรยถึงการเจรจาการค้ากับจีนว่า เป็นเรื่องยากมากที่จะบรรลุข้อตกลงใดๆกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง
อีกทั้งการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm Payrolls) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลงจาก 177K เหลือ 130K ซึ่งหากลดลงตามคาดก็จะเป็นแรงบวกสำหรับราคาทองคำ ส่วนตัวเลขอัตราการว่างงานคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับเดิม 4.2%
ดังนั้นทาง GCAP GOLD จึงประเมินว่าราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบของการพักฐาน แต่ในระยะสั้นเริ่มมีข่าวการขึ้นภาษีเข้ามาช่วยหนุน ดังนั้น หากการย่อตัวในสัปดาห์นี้ไม่หลุด $3,300 (ราคาไทยประมาณ 51,200 บาท) คาดว่าจะเริ่มค่อยๆเห็นการยกตัวขึ้น โดยมีจุดสังเกตสำคัญคือ $3,395 (ราคาไทยประมาณ 52,000 บาท) หากทะลุและยืนได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อไปหา $3,450 / $3,500 ขณะที่ราคาทองคำไทยอาจอยู่ที่ประมาณ 52,700 / 53,300 บาท