เงินบาทแข็งสุดในรอบ 3 สัปดาห์-หุ้นไทยพุ่งสูงสุดในรอบ 6 เดือน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน โดยแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังตลาดในประเทศกลับมาเปิดทำการหลังวันหยุดยาว และเคลื่อนไหวสอดคล้องกับสกุลเงินเอเชีย ขณะที่เงินดอลลาร์เผชิญแรงขายจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนนี้

อย่างไรก็ดี ช่วงกลางสัปดาห์เงินบาทยังคงได้แรงหนุนจากมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 1.50% 

ก่อนจะอ่อนค่ากลับในช่วงท้ายสัปดาห์ ตามทิศทางสกุลเงินในภูมิภาค หลังเงินดอลลาร์ฟื้นตัวจากตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ ที่ออกมาสูงกว่าคาด

สำหรับสัปดาห์หน้า (18–22 ส.ค. 2568) กสิกรไทยคาดว่า กรอบการเคลื่อนไหวเงินบาทจะอยู่ที่ 32.10–32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 และการส่งออกเดือนก.ค. ของไทย, ถ้อยแถลงของประธานเฟดที่การประชุม Jackson Hole, ทิศทางเงินทุนต่างชาติ, ราคาทองคำในตลาดโลก, บันทึกการประชุมเฟด, อัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจอังกฤษและยูโรโซน

ด้านตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET ปรับขึ้นแรงกลางสัปดาห์ตามทิศทางต่างประเทศ แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ 1,283.55 จุด โดยได้รับแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันต่างชาติ โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ที่ถูกมองว่าจะได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลง รวมถึงแรงเก็งกำไรหุ้นสินเชื่อทะเบียนรถรายใหญ่หลังมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น

อย่างไรก็ตาม ดัชนีปรับย่อลงในช่วงท้ายสัปดาห์ จากแรงขายทำกำไร โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มการบินที่ราคาปรับขึ้นแรงก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิ หลังเข้าซื้อสุทธิติดต่อกัน 5 สัปดาห์

นอกจากนี้ บล.กสิกรไทย (KSecurities) ได้ประเมินแนวรับของดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้าไว้ที่ 1,240 และ 1,215 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,280 และ 1,300 จุด โดยยังต้องจับตาตัวเลขจีดีพีไทยไตรมาส 2/2568, การประชุม Jackson Hole, ทิศทางเงินทุนต่างชาติ, บันทึกการประชุมเฟด, อัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ