บัญชีม้าหลอกลงทุนพุ่ง! พบคนมีเงิน-วัยเกษียณ เป็นเป้าหมายหลัก
บัญชีม้าหลอกลงทุนพุ่ง! พบคนมีเงิน-วัยเกษียณ เป็นเป้าหมายหลัก รัฐ จับมือ TikTok เร่งต้านมิจฉาชีพออนไลน์ ป้องกันไม่ให้คนไทยตกเป็นเหยื่อ
นางสาวอุบลรัตน์ จันทรังษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์สื่อสารและความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในการเสวนาในหัวข้อ รู้หน้าไม่รู้พอร์ต หลอกลงทุนยุคใหม่ที่ใครๆก็โดนได้ : คนไทยรู้ทัน 2.0 ว่า การหลอกลวงออนไลน์ส่วนใหญ่จะใช้ “บัญชีม้า” เป็นช่องทางการโอนเงิน โดยมีการจ้างประชาชนไปเปิดบัญชีแล้วนำไปใช้ในธุรกรรมผิดกฎหมาย ซึ่งหลายคนไม่รู้ว่าการเปิดบัญชีม้ามีความผิดตามกฎหมายร้ายแรง
โดยมาตรการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันคือ หากตรวจพบการกระทำผิด จะไม่เพียงปิดกั้นบัญชีเดียว แต่หมายเลขบัตรประชาชนของผู้เกี่ยวข้องจะถูกบล็อกจากทุกธนาคาร ส่งผลให้การเปิดบัญชีใหม่แทบเป็นไปไม่ได้ ทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินในชีวิตประจำวันลำบากขึ้น รวมถึงกระทบต่อการสมัครงานด้วย
ขณะที่โทษตามกฎหมาย คือ ผู้ที่เปิดบัญชีม้าและนำไปขายต่อ อาจถูกปรับสูงสุด 300,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังต้องเผชิญผลกระทบต่อชีวิตทางการเงินในระยะยาว ซึ่งขณะนี้ ธปท. ก็ได้มีการทำงานร่วมกับหลายภาคส่วน รวมถึงแพลตฟอร์มอย่าง TikTok เพื่อสร้างความตระหนักรู้และเผยแพร่ข้อมูลเตือนภัยไปถึงประชาชน
ด้านนางสาวอาชินี ปัทมะสุคนธ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า มูลค่าความเสียหายจากการหลอกลงทุนอยู่ในระดับสูงสุดของประเทศ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ที่มักตกเป็นเหยื่อคือบุคคลที่มีเงิน เช่น ผู้ที่กำลังจะเกษียณ เนื่องจากขณะนี้ใกล้ถึงช่วงที่บุคลากรข้าราชการเริ่มเกษียณอายุ และจะได้รับเงินก้อนหลังทำงานมาทั้งชีวิต มิจฉาชีพจึงจะมีกลอุบายที่หลอกล่อให้เหยื่อสูญทรัพย์ได้
ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว ประชาชนควรตรวจสอบผู้แนะนำการลงทุนว่ามีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ ผ่านระบบ SEC Check First โดยเตือนว่า แม้ระบบจะขึ้นชื่อบุคคลว่าเป็นผู้ได้รับอนุญาตจริง ก็ยังมีความเสี่ยง เพราะมิจฉาชีพอาจนำชื่อจริงไปแอบอ้าง ดังนั้น ควรตรวจสอบเพิ่มเติม เช่น โทรยืนยันกับเบอร์ที่ถูกต้องว่าข้อมูลตรงกับผู้ประกอบธุรกิจหรือไม่
ทั้งนี้ หากยังไม่มั่นใจ ประชาชนสามารถโทรสายด่วน 1207 กด 2 เพื่อสอบถามโดยตรงกับ ก.ล.ต. ซึ่งพร้อมทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาในทุกช่วงการลงทุน
ขณะเดียวกัน อาชญากรรมที่พบมากในปัจจุบันคือการหลอกลงทุนออนไลน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ที่สร้างความเสียหายรุนแรง โดยมิจฉาชีพมักทำงานในรูปแบบองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ ข้ามพรมแดน และไม่จำเป็นต้องรู้จักกันมาก่อน เพียงแค่พบกันบนโลกออนไลน์และมีความสนใจร่วมกันก็สามารถรวมกลุ่มก่ออาชญากรรมได้
โดยองค์ประกอบของการหลอกลวงออนไลน์มี 3 ประการ
1.ผู้เสียหาย – หากขาดทักษะรู้เท่าทันดิจิทัลหรือ Digital Literacy จะมีโอกาสตกเป็นเหยื่อสูง
2.เครื่องมือของคนร้าย – ใช้เทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีทั้งประโยชน์และโทษ มาสนับสนุนการหลอกลวง
3.ความสามารถของอาชญากร – มีการพัฒนาและปรับตัวตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามการป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่าการแก้ไขภายหลัง
ด้านนายอิทธิกร ไตรทศาวิทย์ Public Policy Manager for TikTok Thailand ,Cambodia ,Laos and Myanmar ระบุว่า TikTokก็มีการป้องกันปัญหาอาชญากรรมดังกล่าว โดยแพลตฟอร์มจะมีมาตรการที่ควบคุมการเผยแพร่วิดีโอของผู้ใช้เข้มงวดหรือที่รู้จักกันในนามว่า “หลักเกณฑ์ชุมชน” โดยคอนเทนต์ที่ผิดกฎจะถูกลบออกทันที
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถทำการกดรายงานเพื่อเป็น “ตาวิเศษออนไลน์” เมื่อเจอวิดีโอที่คาดว่าไม่เหมาะสม และเป็นการช่วยตรวจสอบอีกชั้นหนึ่ง ทั้งนี้ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ มีวิดีโอถูกลบกว่า 3.5 ล้านรายการ โดยส่วนใหญ่เป็นเฟกนิวส์และคอนเทนต์ที่สร้างความเกลียดชัง อย่างไรก็ตาม TikTok สามารถทำการลบเนื้อหาดังกล่าวออกไปแล้วกว่า 99.5% ก่อนจะถึงสายตาผู้ใช้
BTC
ETH
DOGE
ADA
BNB
KUB