ราคาทองวันศุกร์ 17 ต.ค. 2568 ปิดการซื้อขาย บวก 1,900 บาท
ราคาทองวันศุกร์ 17 ต.ค. 2568 ปิดการซื้อขาย บวก 1,900 บาทจากวันก่อนหน้า พุ่งพรวดเดียวทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทอง วันศุกร์ 17 ต.ค. 2568 ปิดการซื้อขาย บวก 1,900 บาทจากวันก่อนหน้า พุ่งพรวดเดียวทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
- ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 67,100.00 บาท/บาททองคำ และขายออก 67,200.00 บาท/บาททองคำ
- ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 65,764.08 บาท/บาททองคำ และขายออก 68,000.00 บาท/บาททองคำ
- ทอง 1 สลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 17,600 บาท
- ทอง 2 สลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 34,400 บาท
- ทองครึ่งสลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 9,200 บาท
- ทอง 2 บาท ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 136,000 บาท
- ทอง 5 บาท ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 340,000 บาท
ทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 4,343.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 32.67 บาท/ดอลลาร์
ด้านนางสาว อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำเปิดสัปดาห์ด้วยทิศทางบวกอย่างแข็งแกร่ง และในช่วงต้นสัปดาห์ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ สะท้อนถึงกระแสความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่ยังคงหนาแน่น โดยมีปัจจัยพื้นฐานที่ยังคงสนับสนุนขาขึ้น คือ
- ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่อาจปะทุขึ้นอีกครั้ง : โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขู่เก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มอีก 100% เป็น 130% จากเดิม 30% และประกาศควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญ ซึ่งมีผลวันที่ 1 พ.ย. 2568 ขณะที่จีนได้ทำการตอบโต้ทันที และพร้อมใช้มาตรการ สวนกลับ ทำให้ตลาดกังวลว่าสงครามการค้ารอบใหม่อาจปะทุขึ้นอีกครั้ง ถึงแม้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะมีท่าที อ่อนลง แต่ตลาดก็ยังคงมองว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และ ถือเป็นความเสี่ยง
- ปัญหาการเมืองในสหรัฐฯ : โดยเฉพาะวิกฤต Government Shutdown ที่เข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 และยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องงบประมาณ ขณะที่การเลิกจ้างเริ่มเกิดขึ้น ส่งผลให้ตลาดลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งเป็นผลบวกต่อราคาทองคำในระยะสั้น
- เฟดลดดอกเบี้ยหนุนราคาทองคำ : ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยตลาดคาดการณ์ในเดือนตุลาคม 2568 มีโอกาสสูงถึง 96% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ส่วนในเดือนธันวาคม 2568 คาดว่ามีโอกาสที่ 87% ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และผลตอบแทนพันธบัตรลดลง ซึ่งเป็นแรงหนุนสำคัญต่อราคาทองคำในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์ GCAP GOLD ประเมินว่า ภาพรวมราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มเชิงบวก เนื่องจากราคายังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับสำคัญที่ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสามารถรักษาทิศทางในกรอบขาขึ้นได้อย่างมั่นคง ดังนั้นนักลงทุนที่ถือสถานะฝั่งซื้อมาสามารถ Run Profit ต่อได้
สำหรับกลยุทธ์ระยะสั้นในสัปดาห์นี้ แนะนำหาจังหวะทยอยเข้าซื้อ และหากราคาทองคำย่อตัวลง แต่ยังไม่หลุดโซนแนวรับที่ระดับ 4,090 - 4,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ราคาทองคำไทยประมาณ 63,000 - 62,500 บาท) และหากรักษาระดับได้ คาดว่ามีโอกาสที่ราคาจะดีดตัวขึ้นต่อสู่แนวต้านโซน 4,200 - 4,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ราคาทองคำไทยประมาณ 64,700 - 65,300 บาท) อย่างไรก็ตามยังคงแนะให้เฝ้าระวังแรงเหวี่ยงของราคาจากข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีน หรือการเจรจางบประมาณของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
BTC
ETH
DOGE
ADA
BNB
KUB