ราคาทองคำร่วงแรงกว่า 190 ดอลลาร์ หลังขึ้นแตะจุดสูงสุด

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทอง วันจันทร์ที่  20 ต.ค. 2568 ปิดการซื้อขาย เท่ากับจากวันเสาร์ โดย

• ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 65,900.00บาท/บาททองคำแท่ง ขายออก 66,000.00 บาท/บาททองคำ
• ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 64,581.60 บาท/บาททองรูปพรรณ ขายออก 66,800.00 บาท/บาททองคำ
• ทอง 1 สลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 17,300 บาท
• ทอง 2 สลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 33,800 บาท
• ทองครึ่งสลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 9,050 บาท

 

• ทอง 2 บาท ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 133,600 บาท
• ทอง 5 บาท ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 334,000  บาท
• ทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 4,258.00  ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 32.74 บาท/ดอลลาร์

ราคาทองคำระยะสั้นยังมีความผันผวนสูง จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสถานการณ์การค้าโลก อย่างไรก็ตาม ภาพรวมยังถือว่าทองคำอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นระยะกลาง โดยนักลงทุนควรจับตาแนวรับ 4,190 ดอลลาร์เป็นจุดสำคัญของสัปดาห์นี้

ราคาทองคำร่วงแรงหลังขึ้นแตะจุดสูงสุด นักลงทุนจับตาเจรจาการค้าสหรัฐ–จีน

ราคาทองคำโลกปรับตัวลงอย่างรุนแรงในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ต.ค.) หลังจากพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 4,380 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะเผชิญแรงเทขายจนร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 4,185 ดอลลาร์ ก่อนดีดกลับมาปิดตลาดที่ 4,253 ดอลลาร์

สาเหตุหลักของแรงขายครั้งนี้ มาจากท่าทีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ออกมาให้ข่าวในเชิง “ผ่อนคลายความร้อนแรงของสงครามการค้า” พร้อมมีการนัดเจรจาระหว่าง นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กับ นายเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเรื่องการค้าระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะการจำกัดการส่งออก “แร่หายาก” ซึ่งถือเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำให้ปรับฐานลง

ด้านกองทุนทองคำ SPDR Gold Trust ยังคงเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง โดยในวันศุกร์ที่ผ่านมาเพิ่มการถือครองอีก 12.59 ตัน ส่งผลให้ถือครองรวมอยู่ที่ 1,047.21 ตัน ซื้อสุทธิในเดือนตุลาคม 35.48 ตัน และนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันซื้อสุทธิแล้ว 173.83 ตัน

ส่วนตลาดการเงินอื่น ๆ ดัชนี ดาวโจนส์ (Dow Jones) ปิดบวกที่ 46,190.61 จุด เพิ่มขึ้น 238.37 จุด (+0.52%) ขณะที่ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น มาอยู่ที่ระดับ 98.45 จุด และค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าลงอยู่ที่ 32.74 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในมุมมองเทคนิค ราคาทองคำปรับฐานแรงหลังขึ้นทำจุดสูงสุดบริเวณ 4,380 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเข้าสู่ภาวะ Overbought ตามสัญญาณ Indicator หลายตัว ทำให้การร่วงลงรอบนี้ถือเป็น “การพักฐานเพื่อคลายความร้อนแรงของตลาด”

ล่าสุดราคาทองคำเปิดเช้าวันจันทร์ที่ระดับ 4,267 ดอลลาร์ ทรงตัวเหนือแนวรับระยะสั้นได้แข็งแกร่ง โดยราคาได้ลงมาทดสอบแนว Fibonacci Retracement ที่ระดับ 38.2% และดีดกลับขึ้นมาที่ 23.6% ซึ่งหากภายใน 1 - 2 วันข้างหน้า ราคายังสามารถยืนเหนือระดับ 4,190 ดอลลาร์ ได้ จะถือว่าเป็นสัญญาณ “สิ้นสุดการปรับฐาน” และมีโอกาสกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง

แนวรับ–แนวต้านสำคัญ 

แนวรับระยะสั้น: 4,230 ดอลลาร์

แนวรับระยะกลาง: 4,190 ดอลลาร์

แนวต้านระยะสั้น: 4,280 ดอลลาร์

นักวิเคราะห์มองว่า หากผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเป็นไปในเชิงบวก อาจกดดันราคาทองคำระยะสั้นให้ปรับตัวลงต่อได้ แต่ในทางกลับกัน หากการเจรจาไม่มีความคืบหน้า ทองคำอาจกลับมาเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ที่นักลงทุนเข้าซื้ออีกครั้ง

เรียบเรียงจาก แม่ทองสุก