ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกฟื้น – จับตาชัตดาวน์ยืดเยื้อ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกฟื้น – จับตาชัตดาวน์ยืดเยื้อ-โอเปกพลัสชะลอเพิ่มกำลังผลิต ด้านธปท.คาดเศรษฐกิจไทย Q4 ฟื้นแรงจากส่งออก-ท่องเที่ยว
บล.เอเชีย พลัส ระบุว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 พ.ย.) โดยดัชนีหลักทั้ง ดาวโจนส์, S&P 500 และ แนสแด็ก ปิดบวกในกรอบ 0.1% - 0.6% หลังบริษัทจดทะเบียนในดัชนี S&P 500 กว่า 60% รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ดีกว่าคาด โดยเฉพาะกลุ่ม เทคโนโลยีและ AI ที่ยังคงเป็นผู้นำตลาด
อย่างไรก็ตาม แม้ผลประกอบการหลายบริษัทจะออกมาดีกว่าคาด แต่การปรับเพิ่มงบลงทุนสำหรับปี 2569 โดยเฉพาะในโครงการ Data Centers ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มกังวลต่อภาระค่าใช้จ่าย
และแนวโน้มการลงทุนเกินตัว ขณะที่ภาพรวมการใช้จ่ายของภาคเอกชนในสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัวในปี 2568
ด้านสถานการณ์ Government Shutdown ของสหรัฐฯ ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตา โดยหากยืดเยื้อเกินวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 จะกลายเป็นการปิดหน่วยงานของรัฐที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์
ในตลาดพลังงาน OPEC+ มีแนวโน้มชะลอการเพิ่มกำลังการผลิตในไตรมาส 1 ปี 2569 หลังจากเพิ่งเพิ่มการผลิตอีก 137,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือนธันวาคมนี้
ส่วนภูมิภาคเอเชีย รายได้จากการเล่นเกมในมาเก๊า (Gross Gaming Revenue: GGR) เดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 16% YoY แตะระดับ 24,000 ล้านปาตากา (MOP) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี หนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าเพิ่มขึ้น และกิจกรรม คอนเสิร์ตอีเวนต์ ที่หนาแน่นในช่วงเดือนดังกล่าว
นักวิเคราะห์มองว่า การเปลี่ยนแปลงของ Market Share ในภาคคาสิโนมาเก๊ายังผสมผสาน โดยมีบางบริษัทสามารถรักษาหรือขยายส่วนแบ่งตลาดได้ต่อเนื่อง แนะนำ เก็งกำไรหุ้น SANDS CHINA (1928 HK) และ MGM CHINA (2282 HK) ซึ่งมี Market Share เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ-จีน เริ่มผ่อนคลายลง และในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ศาลฎีกาสหรัฐฯ จะมีการไต่สวนคดีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐ ซึ่งหากผลออกมาในทางลบต่อทรัมป์ อาจส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในมุมของตลาดส่งออกและห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ซึ่งไทยอาจได้รับอานิสงส์ทางอ้อม
เศรษฐกิจไทยยังมีแรงหนุนจากส่งออก-ท่องเที่ยว
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2568 จะได้รับแรงหนุนจากการส่งออกสินค้าและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ ซึ่งจะช่วยพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวดีกว่าที่คาด โดยมีโอกาสที่ GDP ปี 2568 จะโตเกิน 2.2% ตามประมาณการเดิมของ ธปท.
SYNAPSE STRATEGY
นักวิเคราะห์มองว่า ช่วงนี้อยู่ในฤดูกาลประกาศงบไตรมาส 3 โดยบริษัทในสหรัฐฯ ราวหนึ่งในสามรายงานกำไรดีกว่าคาดเฉลี่ย 13% ขณะที่หุ้นไทยเริ่มมีสัญญาณกำไรดีกว่าคาดราว 10% ส่งผลให้ราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับขึ้น
ในทางกลับกัน มีแรงขายทำกำไรในหุ้น Depositary Receipt (DR) ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราวหนึ่งในสามของ DR ปรับตัวลดลง สัปดาห์นี้ตลาดยังคงกังวลความยืดเยื้อของ Government Shutdown และการไต่สวนทรัมป์กรณี Tariff Policy
หุ้นแนะนำสะสมแนว Value Play: CPF, BLA, OR, OSP, BANPU
BTC
ETH
DOGE
ADA
BNB
KUB