วันท่องเที่ยวโลก 2025 : ท่องเที่ยวโลกฟื้น ไทยยังเป็นจุดหมายสำคัญ

วันท่องเที่ยวโลก จัดขึ้นทุกปีในวันที่ 27 กันยายน ถือเป็นวันสำคัญที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะการท่องเที่ยวไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมพักผ่อน แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเป็นเครื่องมือสร้างความเข้าใจระหว่างวัฒนธรรม ซึ่งกำหนดขึ้นโดย องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ หรือ UNWTO เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาการท่องเที่ยวในอนาคต สำหรับปีนี้จัดขึ้นที่เมืองมะละกา ประเทศมาเลเซีย ภายใต้หัวข้อ “การท่องเที่ยวและการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน”

โดยเน้นย้ำถึงศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงของการท่องเที่ยวในฐานะตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก

นายซูรับ โปโลลิคาชวิลี เลขาธิการ UNWTO เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวระหว่างประเทศยังคงมีแรงผลักดันและปรับตัวได้ดี และมีส่วนช่วยสำคัญต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น สร้างงาน และความเป็นอยู่ของผู้คน  พร้อมเน้นย้ำว่า "การเติบโตปีนี้ต้องยั่งยืนและทั่วถึง" โดยคาดว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตจะต่อเนื่องไปจนถึงช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ข้อมูลล่าสุดของ UNWTO ระบุว่า ช่วงครึ่งแรกของปี 2025 มีนักท่องเที่ยวเดินทางข้ามประเทศกว่า 690 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ อย่าง ประเทศเกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน มีอัตราการเติบโตสูงถึง 20%

ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่าในปี 2025 ท่องเที่ยวระหว่างประเทศทั่วโลก จะมีจำนวน 1,508 ล้านคน และการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะยังคงเป็นภูมิภาคที่เติบโตอย่างโดดเด่น นำโดย ญี่ปุ่น จีน และเวียดนาม

สำหรับแนวโน้มการเดินทางทั่วโลกยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยข้อมูลจาก IATA หรือ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ คาดว่าในปี 2025 ความต้องการเดินทางจะเพิ่มขึ้นประมาณ 6% โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่คาดว่าจะเติบโตสูงสุดถึง 9% เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ

ปี 2568 นับเป็นปีสำคัญของการท่องเที่ยวไทย โดยตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากมาตรการ ยกเว้นวีซ่า ที่เอื้อให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น ประกอบกับการทำตลาดเชิงรุกของภาครัฐและเอกชน อีกทั้งยังได้รับแรงหนุนจากตลาดนักท่องเที่ยว ภูมิภาคยุโรป ที่ขยายตัวเด่นชัด ส่วนหนึ่งมาจากการเพิ่มเส้นทางบินตรงและความถี่เที่ยวบินของสายการบินยุโรป เชื่อมโยงไทยกับเมืองสำคัญทั่วทวีปได้มากขึ้น

และหนึ่งในสายการบินชั้นนำระดับภูมิภาคอย่าง สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ได้ประกาศความพร้อมในการรองรับนักเดินทางจากสายการพันธมิตรทั้ง Codeshare Partner และ Interline Partner กว่า 100 สายการบินทั่วโลก ผ่านเครือข่ายเส้นทางบินที่ครอบคลุม 19 จุดหมายปลายทาง ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อตอบโจทย์การเดินทางเชื่อมต่อที่สะดวก รวดเร็ว และไร้รอยต่อ

สำหรับ เทรนด์การท่องเที่ยวปี 2568 ยังคงมุ่งสู่ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และ การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ นับเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยสามารถต่อยอด พัฒนา และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ

โดยภาพรวม การเตรียมความพร้อมของสายการบินและผู้ประกอบการท่องเที่ยวในช่วง ไฮซีซัน จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะ จุดหมายปลายทางระดับโลก ที่พร้อมต้อนรับนักเดินทางด้วยมาตรฐานการบริการที่ยอดเยี่ยม