เจาะการตลาดธุรกิจ "หม้อไฟจีน" พร้อมเคล็ดไม่ลับให้ผู้ประกอบการ
ทุกวันนี้เดินไปตรงไหนก็เจอแต่สุกี้หม้อไฟจีน ซุปหมาล่าสุดหอมกรุ่น ชาลิ้นเล็ก ๆ เป็นกิมมิก จนสร้างปรากฏการณ์เขย่าลูกค้าจากตลาดชาบู สุกี้ ดั้งเดิม
วันนี้พีพีทีวีพาไปเจาะลึกการตลาด กับ ผศ.ดร.บุปผา ลาภะวัฒนาพันธ์ อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ ม.หอการค้าไทย ซึ่งวิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจว่า ธุรกิจหม้อไฟจีนเป็นธุรกิจที่มาแรงมาก โดยเฉพาะย่านธุรกิจน้อยใหญ่ หากเราเจาะลึกลงไปจะพบเหตุผลหลัก ๆ ประมาณ 4 ข้อด้วยกัน
ได้แก่ 1.เป็นธุรกิจที่เปิดง่าย 2. เป็นธุรกิจที่มีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว 3. เป็นธุรกิจที่มีความ "ว้าว" ในเชิงการตลาด 4. สภาพอากาศในช่วงต้นปีก็มีผลส่วนหนึ่ง
เจาะมุมการตลาด "หม้อไฟจีน" เพราะอะไรถึงปัง!
.
1.เป็นธุรกิจที่เปิดง่าย การบริหารจัดการไม่ยุ่งยาก ขอเพียงแค่จัดการน้ำซุป น้ำจิ้มให้โดดเด่น วัตถุดิบหลักอย่าง เนื้อสัตว์สามารถแช่แข็งเก็บไว้ได้นาน พืชผักก็สามารถจัดเซ็ตได้ ตรงนี้เป็น การดีดลูกคิดคำนวณต้นทุนก็เห็นภาพเป็นรูปธรรมมากขึ้น จึงจัดเป็นธุรกิจที่เปิดได้ไม่ยาก
2. เป็นธุรกิจที่มีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว ประเภทของคนจีนที่อยู่ในประเทศไทยมีอยู่ 2 กลุ่มด้วยกัน คือ กลุ่มนักลงทุน กับกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งมีปริมาณในประเทศไทยก็มากเพียงพอที่จะเป็นกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจได้แล้ว ทั้งยังมีกลุ่มคนไทยที่ชื่นชอบอาหารจีนประเภทของร้อนหม้อไฟ ทำให้ฐานลูกค้าเดิมมีมากขึ้น เมื่อฐานลูกค้ามีขนาดใหญ่เพียงพอโอกาสในการทำธุรกิจก็ย่อมสูงมากขึ้นไปด้วย
3. เป็นธุรกิจที่มีความ "ว้าว" ในเชิงการตลาด เนื่องจากมีหลายสิ่งให้เลือก อาทิ ประเภทหม้อไฟ อยากทำแบบไหหลำแบบแต้จิ๋วหรือแบบกวางตุ้ง เมื่อเราสามารถสร้างโอกาสในการเลือกให้กับลูกค้าได้ ลูกค้าได้เลือกในสิ่งที่หลากหลาย ก็ยิ่งสร้างความสนใจให้กับลูกค้า
4. สภาพอากาศในช่วงต้นปีก็มีผลส่วนหนึ่ง เพราะเมื่อไหร่ที่บรรยากาศดีคนก็อยากจะพาครอบครัวหรือชักชวนกันไปกินสุกี้กินหม้อไฟ
ธุรกิจกระแสเป็นเรื่องดี โอกาสมี แต่ต้องระวังสำหรับธุรกิจหม้อไฟจีน ผศ.ดร.บุปผา ย้ำว่า ในมุมหนึ่งอาจมองได้ว่าเป็นธุรกิจที่เกิดมากับกระแส ใครทำแล้วรวย คนอื่นก็อยากทำตาม แต่อีกด้านต้องไม่ลืมว่า ทุกกระแสจะมีอายุของมันเอง ซึ่งอาจเป็นธุรกิจที่มีอายุสั้นกว่าปกติ
"เมื่อไหร่ก็ตามที่มากับกระแสช่วงแรกจะขายดีมาก แต่เมื่อใดที่กระแสเริ่มแผ่วหรือคู่แข่งเริ่มมีกิมมิคต่างๆออกมามากขึ้น ธุรกิจเดิมจะอยู่กับที่ไม่ได้ต้องปรับเปลี่ยนไปให้เร็วขึ้น"
สุดท้ายเมื่อกระแสพีคถึงขีดสุดเพราะความฮิต จากนั้นความฮิตในตลาดจะตกลงมาอย่างรวดเร็ว ด้วยคู่แข่งจำนวนมาก และตรงนี้จะไม่เหมือนกับธุรกิจชานมไข่มุก เพราะชานมมีไว้ทานเล่น สามารถทานได้ตลอด แต่หม้อไฟเป็นอาหารหลัก จึงต้องจับตาดูว่ากระแสจะติดลมบนหรือไม่
ทริคการตลาดเปิดร้านให้แข่งขันได้สถานการณ์โควิดที่ผ่านมาส่งผลต่อธุรกิจแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน วันนี้ธุรกิจต่าง ๆ จึงถือว่ามีบทเรียนแล้ว หากเกิดวิกฤตจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ดังนั้นผู้ประกอบการต้องหาธุรกิจที่สร้างคุณค่าในตัวเอง เพื่อทำเงินอย่างมั่นคง และมีความเสี่ยงต่ำเอาไว้เป็นทางรอดด้วย
หากผู้ประกอบการยึดกับแค่กระแสที่เข้ามา แม้ว่าจะมีลูกค้ารออยู่จำนวนมาก ความเสี่ยงก็สูงขึ้นตามไปด้วย จึงอยากให้ผู้ประกอบการทุกคนอย่าลืมหัวใจสำคัญ คือ "ความเสี่ยงของธุรกิจ" จากนั้นจึงใช้เครื่องมือการตลาดเข้ามาจับ ผลักดันให้การสื่อสารกลายเป็นไวรัล แล้วทำให้ลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ย่อมทำให้สูตรสำเร็จของธุรกิจมีความเป็นไปได้ในการแข่งขัน และมีโอกาสเติบโตขึ้นตามไปด้วย