เดือนแห่งความรัก เดือนแห่งการยื่นภาษี "คู่สมรส" วางแผน 3 วิธีให้ประหยัดสุด
เดือนแห่งความรัก สำหรับคู่สมรสก็เป็นช่วงเวลาแห่งการยื่นภาษีเงินได้ด้วย (ยื่นออนไลน์ 10 เม.ย. 2566 ) บางครอบครัวแยกกันยื่น บางครอบครัวยื่นคู่ ซึ่งมีอยู่ 3 วิธี ที่ทำให้การยื่นภาษีสมรสประหยัด
การวางแผนภาษีสำหรับคู่สมรส มีทางเลือกในการยื่นภาษี ดังนี้
กทม.ชี้แจง กรณี ปชช.ไม่ได้รับหนังสือแจ้งเสียภาษีที่ดิน
ได้ภาษีคืนหรือยัง? เปิดช่องทางเช็กเงินภาษีส่วนเกินที่ได้คืน
วิธีที่ 1 แยกยื่นแบบแสดงรายการ
คู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสกัน สามารถแยกยื่นแบบการเสียภาษีได้ ต่างคนต่างยื่นแบบจากรายได้ส่วนตัวของตนเองได้ ไม่ต้องนำรายได้มารวมกัน และสามารถใช้สิทธิหักค่าลดหย่อน และค่าใช้จ่ายแยกกันตามกฎหมายได้เลย
วิธีนี้เหมาะกับกรณีที่ทั้ง 2 ฝ่าย มีรายได้พอๆ กัน เสียภาษีในอัตราฐานภาษีที่ใกล้เคียงกัน และมีค่าลดหย่อนต่างๆ ใกล้เคียงกัน
เมื่อแยกยื่นจะเป็นการกระจายหน่วยภาษี ทำให้ต่างฝ่ายต่างเสียภาษีในอัตราที่เหมาะสม นอกจากนี้ การแยกยื่นจะทำให้เกิดความสะดวกกับทั้ง 2 ฝ่าย หากไม่ต้องการให้อีกฝ่ายมายุ่งเกี่ยวในการบริหารเงินส่วนตัวของตนเอง
เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ดูตรงไหน รู้ไว้ก่อนยื่นภาษี
วิธีที่ 2 รวมยื่นแบบแสดงรายการ รวมเงินได้ทั้งหมดของทั้ง 2 ฝ่ายเข้าด้วยกัน แล้วนำไปให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ยื่นแบบ สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
- รวมยื่นแบบแสดงรายการในนามสามี คือ การที่ภรรยานำเงินได้ทั้งหมดของตนไปรวมกับเงินได้ทั้งหมดของสามี แล้วให้สามีเป็นผู้ยื่นแบบ
- รวมยื่นแบบแสดงรายการในนามภรรยา คือ การที่สามีนำเงินได้ทั้งหมดของตนไปรวมกับเงินได้ทั้งหมดของภรรยา แล้วให้ภรรยาเป็นผู้ยื่นแบบ
การรวมยื่นแบบแสดงรายการแบบนี้ จะเป็นประโยชน์ก็ต่อเมื่อฝ่ายหนึ่ง มีรายได้ต่างกับอีกฝ่ายหนึ่งมาก และฝ่ายที่มีรายได้ต่ำกว่านั้น ไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้เต็มสิทธิ จึงรวมรายได้กันและให้ฝ่ายมีรายได้มากกว่าเป็นผู้ยื่นแบบ ทำให้สามารถรวมสิทธิค่าลดหย่อนทางภาษีต่างๆ ของฝ่ายที่มีรายได้น้อย ที่ยังใช้ประโยชน์ไม่เต็มสิทธิ ไปให้อีกฝ่ายที่มีภาระภาษีสูงกว่าได้ประโยชน์
วิธีที่ 3 แยกยื่นเฉพาะเงินเดือน ส่วนเงินได้อื่นๆ นำไปยื่นรวมในนามอีกฝ่าย แบบนี้จะทำได้ 2 วิธี คือ
- ภรรยาแยกยื่นแบบภาษีเฉพาะเงินเดือนของตัวเอง ส่วนเงินได้อื่นๆ นำไปรวมกับเงินได้ของสามี แล้วยื่นภาษีรวมดันในนามสามี
- สามีแยกยื่นแบบภาษีเฉพาะเงินเดือนของตัวเอง ส่วนเงินได้อื่นๆ นำไปรวมกับเงินได้ของภรรยา แล้วยื่นภาษีรวมดันในนามภรรยา
ซึ่งเงินได้อื่นๆ เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าเช่าบ้าน เงินรับจ้างทำของ เป็นต้น วิธีนี้เหมาะกับคู่สมรสที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเงินเดือนมาก และมีรายได้จากทางอื่นด้วย แต่หักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนในส่วนของเงินเดือนเต็มสิทธิทางกฎหมายแล้ว ทำให้รายได้อื่นที่เพิ่มมา
นอกจาก จะหักค่าใช้จ่ายเพิ่มไม่ได้ ยังเป็นรายได้ส่วนเพิ่มที่ทำให้ฐานภาษีสูงขึ้น และต้องเสียภาษีมากขึ้น ก็สามารถยื่นแบบเฉพาะเงินเดือน และนำเงินได้อื่นๆ ไปรวมกับอีกฝ่ายที่มีรายได้น้อยกว่า และยังใช้สิทธิค่าลดหย่อน และค่าใช้จ่ายยังไม่เต็มสิทธิ ก็จะช่วยประหยัดภาษีได้มากกว่า
ที่มา : ธนาคารไทยพาณิชย์