เอกชนจี้รัฐลงทุน “ระบบคลาวด์กลาง” ฝ่าวิกฤติยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
“เอกชน” แนะรัฐเร่งลงทุนระบบคลาวด์กลาง ลดต้นทุน-เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขัน ช่วยเอสเอ็มอี 3.2 ล้านราย ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลทวีความรุนแรง
จากงานสัมมนา Digital Nation : Making it Happen จัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ร่วมกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) โดยมีการเชิญภาครัฐ เอกชน ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญมาร่วมวิเคราะห์ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล ประจำปี 2567 โดยมีการแนะภาครัฐให้เร่งลงทุนพัฒนาระบบคลาวด์กลาง หรือ Cloud Center เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลให้กับเอสเอ็มอีไทย 3.2 ล้านราย ซึ่งไม่มีทุนที่จะเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ธุรกิจดิจิทัล ท่ามกลางกระแสการแข่งขันที่รุนแรงในปัจจุบัน

นายมีธรรม ณ ระนอง รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) กล่าวถึงผลการวิจัยเรื่อง Digital Maturity in Thailand 2023-2024 พบว่าภาคธุรกิจขนาดกลางและย่อมของไทยมีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางถึงใหญ่ ที่มีรายได้ตั้งแต่ 50 ล้านบาทต่อปีขึ้นไป ขณะที่ธุรกิจขนาดเล็ก หรือ Micro Business ที่มีรายได้น้อยกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI น้อย มีปัญหาทั้งเรื่องการเข้าถึงและบุคลากรที่มีความพร้อมในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
“ชาล็อต-ณวัฒน์” แถลง เผยกลโกงมิจฉาชีพใช้เอไอหลอกสูญเงิน 4 ล้าน
ออสเตรเลียสั่งสอบ ตัวอย่างไวรัสอันตราย 300 ตัวอย่างหายไปจากห้องแล็บ
คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุดในปี 2024 ?

ภาคธุรกิจที่มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI สูงสุด
- กลุ่มธุรกิจการเงินและประกัน
- ธุรกิจด้านไอที
- ภาคการขนส่ง
ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI น้อยที่สุด
- ธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีก โดยเฉพาะร้านประเภทโชห่วย
- ภาคการผลิตขนาดเล็ก
เป็นกลุ่มที่ต้องปรับตัวเพื่อให้แข่งขันได้เนื่องจากธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีก เป็นธุรกิจที่ต้องเข้าถึงผู้ซื้อจำนวนมาก การนำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI เข้ามาใช้จะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ในขณะที่ภาคการผลิต เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการบริหารจัดการต้นทุน ทำให้มีกำไรมากขึ้น
การนำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มาใช้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตและการตลาด มีต้นทุนในการปรับปรุงและเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีที่สูง เป็นปัญหาที่ภาคธุรกิจขนาดกลางและเล็ก ไม่สามารถที่จะลงทุนได้จึงเป็นเรื่องที่ภาครัฐควรจะเข้ามาสนับสนุนเพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจดังกล่าวเปลี่ยนผ่านและแข่งขันท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจไทยจากอุตสาหกรรมการผลิตไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล.....นายมีธรรม กล่าว
จากผลการศึกษาของ ETDA พบว่าการจะไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล หรือการที่จะขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็น Digital Nation ต้องมีการพัฒนา Cloud Service ให้มีประสิทธิภาพ Cloud เป็นระบบที่ช่วยพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่มีต้นทุนต่ำที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำ เมื่อนำระบบ Cloud มาใช้จะทำให้ความสามารถของผู้ประกอบการไทยในด้านของการเข้าถึงเทคโนโลยีดีขึ้นในต้นทุนที่ถูกกว่าเทคโนโลยีอื่น

เช่นเดียวกับการเปิดเผยถึงผลการศึกษาของ Boston Consulting Group (BCG) นายเบนยามิน ฟิงเกอร์เล (Benjamin Fingerle) กรรมการผู้จัดการและพาร์ทเนอร์ BCG ระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้ดิจิทัลและเทคโนโลยี AI ในปี 2567 เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ภาคธุรกิจของไทยกว่า 300 บริษัทมีพัฒนาการในการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI จากขั้นเริ่มต้น ไปสู่ขั้นการใช้งานแบบผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่จะเป็นพัฒนาการของภาคธุรกิจขนาดกลางและใหญ่ซึ่งมีเงินทุนมากพอสำหรับการลงทุนพัฒนาและวางระบบ ในขณะที่ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กของไทยยังไม่สามารถที่จะเปลี่ยนผ่านโครงสร้างการผลิตและการตลาดเข้าสู่ระบบดิจิทัลและ AI ได้ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเงินทุน

ดร.ฐิติมา ชูเชิด ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ปัญหาใหญ่ของผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กของไทย ที่ไม่สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจดิจิทัลและ AI ได้ เป็นผลมาจากหลายบริษัทมีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน รายได้ของธุรกิจยังติดลบ และบางแห่งที่มีกำไรก็ไม่เพียงพอสำหรับการลงทุน
จากการสำรวจของศูนย์วิจัยพบว่า ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กรู้ว่าการปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจสู่ดิจิทัลมีประโยชน์ แต่ยังไม่พร้อมเปลี่ยนเพราะมีปัญหาเรื่องเงินทุน ต้องใช้เวลา 2-5 ปี 47% ของผู้ตอบแบบสอบถามพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนและใช้ดิจิทัลและ AI ภายใน 2 ปี และอีก 30% พร้อมใช้ใน 3-5 ปี ปัญหาใหญ่ที่กังวลคือเรื่องของเงินทุน แต่ถ้ารัฐบาลมีเทคโนโลยีกลางหรือ Cloud Center ให้ เขาก็พร้อมที่จะเข้าไปใช้งาน.....ดร.ฐิติมา กล่าว

นอกจากนี้นางสาวปาจรีย์ แสงคำ หัวหน้าส่วนเทคโนโลยีดิจิทัล (Head of Digital Technology) บริษัทโอสถสภา จำกัด (มหาชน) ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ถ้ารัฐบาลสามารถลงทุนระบบ Cloud Center ให้ภาคธุรกิจขนาดกลางและเล็กมาใช้บริการได้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กลดต้นทุนในการดำเนินงาน และเพิ่มรายได้ สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล และนำพาประเทศไปสู่การเป็น Digital Nation ได้
อย่างโอสถสภาฯ เรามีเงินทุนที่มาลงทุนพัฒนาระบบช่วยให้บริหารจัดการต้นทุนและเพิ่มรายได้ได้ แต่ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กมีเงินทุนไม่พอ ถ้าเราปล่อยให้เขาพัฒนาเองต้องใช้เวลานานมาก ส่วนตัวมองว่าถ้ารัฐเข้ามาพัฒนาระบบ Cloud Center จะทำให้พวกเขาลดต้นทุนจากการประหยัดต่อขนาด ก้าวกระโดดเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลได้เร็วขึ้น และมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็น Digital Nation.....นางสาวปาจรีย์ กล่าว

นายปนายุ ศิริกระจ่างศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่คว่ำหวอดในด้านธุรกิจ Digital Solution Provider ยอมรับว่าการที่เราจะขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล และ Digital Nation ได้ จำเป็นต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนในระบบเพื่อให้ธุรกิจเข้าสู่ระบบได้ ธุรกิจต้องมีทุนเพียงพอ จากนั้นถึงจะพัฒนาและลงทุนในเรื่องของเทคโนโลยี สำหรับธุรกิจขนาดกลางและใหญ่อาจไม่ใช่ปัญหา แต่สำหรับธุรกิจขนาดเล็กแล้ว รัฐบาลต้องเข้ามาสนับสนุนในเรื่องนี้
นอกจากการลงทุนในเรื่องของระบบ Cloud Center แล้ว จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร จากผลการศึกษาล่าสุดพบว่า บุคลากรด้านดิจิทัลของไทยในระดับที่ทำงานได้ระดับ 3-4 มีเพียง 1% ของทั้งประเทศคือประมาณแสนกว่าคน น้อยกว่าสิงคโปร์ และมาเลเซีย ดังนั้นรัฐบาลต้องให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรและต่อยอดความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพของคนในด้านนี้ให้เพิ่มขึ้น.....นายปนายุ กล่าว
ในส่วนของภาครัฐ ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี กล่าวถึงการพัฒนาระบบ Could Center ว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้มีการพัฒนาระบบ Cloud สำหรับการทำงานของรัฐบาลที่ให้บริการประชาชนอยู่ เพื่อช่วยประหยัดงบประมาณในการประมวลผลพื้นฐานได้ 30-50% การพัฒนาระบบ Cloud Center เพื่อธุรกิจขนาดกลางและเล็ก เป็นเรื่องของนโยบายของรัฐบาลว่าจะมีการดำเนินการหรือไม่ ทั้งนี้ระบบ Cloud ของรัฐบาลที่มีพัฒนาอยู่เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและมีเป้าหมายสู่การเป็น Digital Nation และส่งเสริมให้ภาคธุรกิจมีความสามารถในการแข่งขันและการทำธุรกิจได้ง่ายขึ้นอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามตามรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กทั้งสิ้น 3.2 ล้านรายทั่วประเทศคิดเป็น 99.5% ของสถานประกอบการทั้งหมด มีการจ้างงานมากถึง 12.8 ล้านคน สร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 38.5% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDPs)