เปิด 10 ธุรกิจดาวรุ่ง – ดาวร่วง ปี 2568 ใครอยู่รอด-ใครต้องปรับตัว-ใครโดดเด่น
หอการค้าเปิดข้อมูล 10 ธุรกิจดาวรุ่ง – ดาวร่วง ปี 2568 พร้อมปัจจัยสนับสนุนและบั่นทอนผู้ประกอบที่ต้องเตรียมตัวรับมือ
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดย รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจการจัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง – ดาวร่วง ปี 2568 ซึ่ง
10 ธุรกิจดาวร่วง
1.ธุรกิจจำหน่ายและให้เช่า CD หรือ VDO
2.ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่มี Platform Online
3.ธุรกิจคนกลางผลิตและจำหน่ายที่เก็บข้อมูล เช่น CD DVD Thumb Drive การ์ดอื่นๆ
4.บริการส่งหนังสือพิมพ์

5.ธุรกิจผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
6.ธุรกิจถ่ายเอกสาร
7.ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบดั้งเดิม ไม่มีการออกแบบดีไซน์
8.ธุรกิจรถยนต์มือ 2
9.ร้านขายเครื่องเล่นเกม
10.ธุรกิจผลิตกระดาษ และ ร้านโชห่วย
อส.ปืนโหด! กระหน่ำยิงกลางร้านข้าวต้ม เสียชีวิต 2 เจ็บ 3
ฉายารัฐบาล ปี 2567 "รัฐบาลพ่อเลี้ยง" พร้อมฉายานายกรัฐมนตรี “แพทองโพย”
20 ที่เที่ยวปีใหม่ ใกล้กรุงเทพฯ ไปเช้าเย็นกลับ เดินทางง่าย
ธุรกิจที่โดดเด่นในปี 2568
1.ธุรกิจแพทย์และความงาม ธุรกิจ Cloud Service และ Cyber Security
2.ธุรกิจจัดทำคอนเทนท์ ธุรกิจยูทูบเบอร์ การรีวิวสินค้า และอินฟลูเอ็นเซอร์
3.ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจซอฟพาวเวอร์ไทย โดยเฉพาะ ซีรี่ส์/ภาพยนตร์ และ ธุรกิจโฆษณาและสื่อออนไลน์
4.งานคอนเสิร์ต มหกรรมจัดแสดงสินค้า ธุรกิจจัดอีเวนต์ และธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
5.ธุรกิจความเชื่อ (สายมู) ธุรกิจเงินด่วน และธุรกิจประกันภัยรวมไปถึงประกันชีวิต
6.ธุรกิจการให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม เช่น แม่บ้านรายวัน และธุรกิจสถานบันเทิง
7.คลินิกกายภาพบำบัด ธุรกิจให้บริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้าและติดตั้ง ธุรกิจรถยนต์อีวี และ ธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
8.ธุรกิจทางการเงินธนาคาร ธุรกิจตู้หยอดเหรียญเครื่องดื่มอาหารและธุรกิจเครื่องสะดวกซัก รวมไปถึงธุรกิจด้านการท่องเที่ยว
9.ธุรกิจโทรคมนาคมสื่อสาร ธุรกิจโลจิสติกส์เดลิเวอรี่ และครั้งสินค้า ทนายความและตรวจสอบบัญชี และธุรกิจด้านอาหาร Street Food และ ตลาดนัดกลางคืน
10.ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ธุรกิจพลังงานทดแทน และ โรงพยาบาลคลินิกเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
นอกจากนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยังได้เปิดเผยถึง ปัจจัยสนับสนุนและบั่นทอน การดำเนินธุรกิจ และเศรษฐกิจไทยในปี 2568 อีกด้วย ว่า ในปีหน้านั้น การดำเนินธุรกิจและเศรษฐกิจของไทย จะได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก ภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ที่ได้แรงหนุนจากฟรีวีซ่า พร้อมกับภาครัฐฯ เตรียมเปิดแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว "Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025" ในการเข้ามาลงทุนของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก เช่น Amazon , Google , Moicrosoft
รวมไปถึงไทยเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่ม BRICS ซึ่งช่วยยกระดับบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ หนุนการค้า การลงทุนของไทย รวมทั้งการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งปัจจัยเหล่านี้คาดว่าจะเป็นพื้นฐานให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นในปีหน้าแบบกระจายตัว เคลื่อนตัวในกรอบ 2.8 - 3.2% โดยจะฟื้นตัวในช่วงไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 เป็นสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจบั่นทอนต่อธุรกิจและเศรษฐกิจของไทยในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะพื้นที่ในตะวันออกกลาง และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานโลก ทิศทางการดำเนินโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯชุดใหม่ ขณะเดียวกันสิ่งก็ยังต้องติดตามทิศทางความไม่แน่นอนของการเมืองภายในประเทศที่มีผลต่อการพิจารณางบประมาณปี 2569 ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และความไม่แน่นอนของภัยธรรมชาติที่มีแนวโน้มสูงขึ้น
ซึ่งในกรณีที่ ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เข้ามาติดอันดับของธุรกิจดาวรุ่งปีแรก และอยู่ถึงอันดับ 4 นั้น เนื่องจากเศรษฐกิจที่เติบโต มีกิจกรรมความบันเทิงและงานสังสรรค์เพิ่มขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน บริโภคแอลกอฮอล์ที่เพิ่มขึ้นจะไม่ส่งผลให้หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นตาม แต่หนี้ครัวนั้น เกิดจากการพนัน และการใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ซึ่ง ประชาชนก็ควรควบคุมการก่อหนี้ในอนาคตด้วยเช่นกัน
นายธนวรรธน์ ยังได้คาดการณ์ว่า สถานการณ์หนี้ครัวเรือน ในปี 2568 จะลดลง จาก 89% อยู่ที่ 85% ต่อจีดีพี เป็นผลมาจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของรัฐบาลผ่านโครงการ "คุณสู้เราช่วย"