รวยได้ด้วย “กฎออมเงิน 30 วัน”
Money Trick กับอิ๊งค์ กชพรรณ วันนี้จะมาพูดถึงการออมเงินด้วยกฎ 30 วัน ปีใหม่ เริ่มต้นใหม่ ผ่านงานปาร์ตี้ การเฉลิมฉลองมาแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาวางแผนทางการเงิน ใครอยากเริ่มต้นเก็บเงิน ลองใช้วิธีนี้ดู
ข้อมูลที่เราหยิบยกมาฝากกันวันนี้ กับกฎการออมเงิน 30 วัน มาจาก ธนาคารกรุงศรี by Krungsri The COACH ซึ่ง “กฎการออม 30 วัน” เป็นวิธียอดนิยมที่จะทำให้เราจัดสรรเงินได้ง่ายขึ้น โดยมีหลักคือ เอาเงินที่เราจะซื้อไปออมแทน แล้วใช้เวลานั้นพิสูจน์ความอยากได้ของตัวเราเองว่า อยากได้ของชิ้นนั้นจริง ๆ หรือไม่ ถ้าความอยากเราหมดไป สุดท้ายเงินนั้นก็จะกลายเป็นเงินออมนอนสวย ๆ อยู่ในบัญชีเราแทน

แต่....ก่อนที่จะใช้กฎการออม 30 วัน สิ่งสำคัญ คือ ต้องเข้าใจกฎการใช้จ่ายด้วยแรงกระตุ้น 30 วันก่อน
กฎการใช้จ่ายด้วยแรงกระตุ้น 30 วัน คืออะไร? คือคนเราอยู่ในความหลงใหลของ รูป รส กลิ่น เสียง อยากช้อป อยากใช้ เป็นทาสการตลาด และกำลังจะใช้อารมณ์นั้น ควักกระเป๋าจ่ายเงินเพื่อตอบสนองความต้องการ โดยที่ไม่คิดคำนวณงบประมาณก่อน หรือถึงขั้นก่อหนี้เพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา นั้นแสดงว่า กฎการใช้จ่ายตามแรงกระตุ้น 30 วัน ออกฤทธิ์แล้ว และสิ่งที่เราต้องทำคือ “จะต้องรอเป็นเวลา 30 วัน” วิธีคือให้เราถ่ายรูปของชิ้นนั้นไว้ หรือจดไว้เลยว่าอยากได้อะไรบ้าง ราคาตอนที่เราเห็นเท่าไหร่ บางคนแปะโน้ตไว้เลยค่ะ บนกระจก ตู้เย็น ที่เราเห็นง่ายๆ และตั้งเป้าไว้ว่าในอีก 30 วันข้างหน้าจะกลับมาซื้อแน่นอน
เมื่อครบกำหนดวันที่ต้องกลับไปซื้อ หากยังคงรู้สึกว่าต้องการอยู่ก็ให้ซื้อไปได้เลย แต่ในทางกลับกันถ้าหากความต้องการจางหายไปจากในความคิดแล้วแสดงว่ากฎการออมเงิน 30 วันทำงานได้ผลเต็มร้อย และเงินที่เราเคยจะใช้ในตอน 30 วันนั้นก็จะกลายเป็นเงินออม กฎนี้ถือเป็นการสร้างโอกาสที่ง่ายที่สุดในการออมอย่างสม่ำเสมอ และเป็นการวัดใจเรื่องนิสัยการช้อปไปในตัว ซึ่งเราจะรู้เลยว่าของสิ่งนั้นแค่อยากได้หรือจำเป็นต้องมี
นอกจากนั้น ยังมี 4 วิธีออมเงิน เพิ่มความสนุกให้กับกฎการออมเงิน 30 วัน
วิธีแรก เก็บเงินทอน ทุกครั้งที่ซื้อของ ให้เก็บเงินทอนไว้ทุกครั้งเพื่อนำไปออมเงิน การเก็บเงินทอน หรือเหรียญอาจจะฟังดูไม่มาก แต่จำนวนเงินจะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปอย่างแน่นอน เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นวิธีการออมเงินแบบง่าย ๆ แล้ว ส่วนที่ดีที่สุด คือ เราสามารถเพิ่มความท้าทายในการออมเงินนี้ด้วยการปัดเศษ เช่น ได้เงินทอนมา 57 บาท ก็ปัดให้เป็น 60 บาท และนำเงินส่วนนี้ไปเก็บเป็นเงินออม
วิธีที่ 2 ไม่ทานอาหารนอกบ้าน เช่นการตั้งเป้าและตั้งใจที่จะทานอาหารที่บ้านให้มากขึ้นเป็นเวลา 30 วัน และมาดูผลลัพธ์ว่าจะสามารถประหยัดได้มากแค่ไหน ซึ่งสิ่งที่ควรทำเลย คือ การทำอาหารทานเองที่บ้านในทุกๆ มื้อ
วิธีที่ 3 ออมเงิน 100 บาท ใน 30 วัน การออมเงิน 100 บาท ใน 30 วัน เป็นการเริ่มต้นการออมที่ดี เนื่องจากการออมเงิน 100 บาททุกวัน ภายในระยะเวลา 30 วัน จะเป็นสิ่งที่การันตี และช่วยคุณในยามฉุกเฉินได้ อีกทั้งยังมีเงินออมเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วันอีกด้วย โดยที่กุญแจสู่ความสำเร็จ คือ การทำลายเป้าหมาย 100 บาท และกำหนดจำนวนเงินออมรายสัปดาห์ หรือรายวันให้เพิ่มขึ้น เช่น คุณสามารถประหยัดเงินได้เพียง 50 บาท หรือ 60 บาท ต่อวัน หรือ 350 บาท ต่อสัปดาห์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการออม 100 ที่ตั้งไว้นั้นเอง มากไปกว่านั้นยังสามารถดูงบประมาณ และดูว่ามีค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่สามารถตัดออกเพื่อประหยัดได้
และวิธีที่ 4 การออมเงินแบบ 50-30-20
- 50% ของรายรับ จะเป็นรายจ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าน้ำมันรถ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต และอื่น ๆ
- 30% ของรายได้ คือในส่วนของสิ่งที่เราอยากได้ ซึ่งจะเป็นรายจ่ายทางเลือกที่ควบคุมได้ในกฎ 30 วัน
- 20% ของรายรับ คือเงินฉุกเฉินในอนาคต หรือเงินออมเพื่อต่อยอด ออมเพื่อลงทุนนั่นเอง
ซึ่งเงิน 20% หลายคนมักจะนำไปลงทุน ซื้อกองทุน หรือฝากประจำกันอยู่แล้ว แต่รายจ่ายในส่วน 30% หากสามารถประหยัดรายจ่ายส่วนนี้ได้ จะช่วยเสริมให้เงินออมเพิ่มมากขึ้น และมีเงินเก็บแต่ละเดือนมากกว่า 20% นั่นเอง
สรุป การออมด้วยกฎ 30 วันเป็นการเริ่มต้นที่ดี หากเราสามารถประหยัดเงินได้มากขึ้นภายในระยะเวลา 30 วัน ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี จะช่วยให้เรามีวินัยในการออมเงินอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาหลายเดือน หรือหลายปี เริ่มเลยค่ะวันนี้ยังไม่สาย