พิษทรัมป์ สินค้าไทย! โคม่า ส่งออกมูลค่าสูญสะสม 8 แสนล้าน ใน 5 ปี
เปิดชื่อสินค้าที่กำลังจะโดนมรสุมทางเศรษฐกิจจากขึ้นภาษีตอบโต้เต็มรูปแบบ ของ ปธน.ทรัมป์ ครบ 90 วัน ไทยเจออัตราภาษีที่ 36% ถ้าเป็นแบบนี้ไปอีก 5 ปี มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐฯ จะค่อยๆ ลดลงสะสม 8 แสนล้านบาท
แม้ทรัมป์จะประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีตอบโต้เต็มรูปแบบออกไปอีก 90 วัน แต่ก็จะไม่ช่วยให้ธุรกิจไทยรอดพ้นจากมรสุมทางเศรษฐกิจที่กำลังจะตามมา แต่ในช่วง 90 วันนี้ ที่การเก็บภาษีตอบโต้อยู่ที่ 10% เป็นเพียงการช่วยลดแรงกระแทกในระยะสั้นต่อภาคธุรกิจไทยได้บางส่วน ท้ายที่สุดแล้ว ภาคธุรกิจไทยก็จะยังคงต้องเผชิญกับผลกระทบที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จากกฎกติกาการค้าโลกที่จะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป

โดยไม่ว่าผลการเจรจาจะออกมาในรูปแบบใด ธุรกิจไทยก็จะยังคงได้รับผลกระทบทั้งทางตรง ผ่านการส่งออกสินค้าไปยังตลาดสหรัฐฯ และทางอ้อม เช่น ควาต้องการสินค้าจากประเทศคู่ค้าต่างๆ จากไทยชะลอลง เช่น จีน แต่สินค้าจีนกลับมีแนวโน้มทะลักเข้ามาในไทยและตลาดโลกมากขึ้น เป็นต้น และสิ่งที่ต้องจับตาใกล้ชิด คือ การย้ายฐานการผลิตหรือชะลอการลงทุนในไทย ที่อาจส่งผลต่อภาคการส่งออกและผลิตของไทยได้
Money Trick จะพามาแยกรายธุรกิจว่า กลุ่มไหนได้รับผลกระทบมากที่สุด ไป น้อยที่สุด มากที่สุด ประมาณ 14 สินค้า คือ
ธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบในระดับสูง คือ กลุ่มธุรกิจที่พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ เป็นสัดส่วนสูง และมีโอกาสสูญเสียส่วนแบ่งตลาดจากการที่ไทยถูกเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่าคู่แข่งค่อนข้างมาก อีกทั้ง สหรัฐฯ ก็สามารถหาสินค้าทดแทนจากแหล่งอื่น ๆ ได้ ตัวอย่างเช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ ขณะที่กลุ่มธุรกิจของไทยที่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานการผลิตจีนเพื่อการส่งออกไปสหรัฐฯ ก็จะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการชะลอตัวของการส่งออกของจีน เช่น ผลิตภัณฑ์พลาสติก ยางพาราและไม้ยางพารา
นอกจากนี้ ธุรกิจที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกค่อนข้างมากจะเผชิญกับความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น อีกทั้ง ธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบสูงยังเป็นกลุ่มที่จะเผชิญกับปัญหาสินค้าจีนทะลักเข้ามารุนแรงมากขึ้นจากปัญหา Overcapacity ของจีนที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น ได้แก่ กลุ่มสินค้าเหล็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า และรถยนต์ เป็นต้น
ขณะที่กลุ่มสินค้าที่จะได้รับผลกระทบในระดับปานกลาง เช่น กลุ่มสินค้าเกษตรอื่น ๆ ผักผลไม้สดและแปรรูป เนื้อสัตว์และอาหารแปรรูป ยานยนต์ ถุงมือยาง เม็ดพลาสติก เป็นต้น
และเมื่อระดับความรุนแรงของผลกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ จะมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากยิ่งภาษีถูกใช้นานขึ้น ผลกระทบก็จะยิ่งมากขึ้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปยังสหรัฐฯ ลดลงสะสมราว 8.1 แสนล้านบาท เมื่อมีการบังคับใช้มาตรการด้านภาษีครบ 5 ปี
ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับมือกับสงครามการค้าที่มีแนวโน้มจะยืดเยื้อออกไป
แล้วผู้ประกอบการจะมีกลยุทธ์รับมืออย่างไร SCB EIC แนะนำกลยุทธ์ 4P รับมือแรงกดดันจากนโยบายของ Trump 2.0
- Product : พัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์/แตกต่าง/สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า
- Place : กระจายตลาด
- Preparedness : บริหารความเสี่ยงในทุกมิติทั้ง Supply chain และ Balance sheet
- Productivity : การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน