รู้จัก “ทองคลังหลวง” และการตุนทองของแบงก์กลางทั่วโลก
ผู้ว่าแบงก์ชาติ รับมอบ ทองคำแท่งเข้าคลังหลวง ซึ่งเป็นทองช่วยชาติตามเจตนารมย์ของหลวงตามหาบัว วันนี้ Money trick ก็เลยจะพาไปย้อนดูที่มาของทองคำส่วนนี้ รวมถึงไปดูการกักตุนของคำของธนาคารกลางทั่วโลกด้วยว่าใครมีมากสุด แล้วของไทยอยู่อันดับที่เท่าไหร่
เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา คณะศิษย์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จัดพิธีมอบทองคำเข้าคลังหลวง ซึ่งมาจาก ที่ "ผ้าป่า 12 เมษาฯ ตามเจตนารมณ์ของหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ให้กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
โดยมีนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย รับมอบทองคำด้วยตัวเอง จำนวน 10 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 34 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนสำรองของประเทศ

สำหรับทองคำที่ได้รับบริจาคมาจากความศรัทธาของประชาชน ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ยืนยันว่า ยังอยู่ครบถ้วนทั้งหมด ไม่มีการหยิบไปใช้แม้แต่น้อย และถูกเก็บไว้ใน “ห้องมั่นคง” มีกรรมการดูแลเรื่องนี้ และสุ่มตรวจทองคำทุก ๆ 5 ปี
สำหรับสินทรัพย์ที่ได้รับมอบมาทั้งหมดในช่วงก่อนหน้านี้ แบ่งเป็น ทองคำแท่งน้ำหนักรวมประมาณ 1.3 หมื่นกิโลกรัม เงินตราต่างประเทศจำนวน กว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หากย้อนดูประวัติของ ทองช่วยชาติ หลวงตามหาบัว อ้างอิงข้อมูลจาก ธปท. ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ประเทศไทยเผชิญกับความยากลำบากของภาวะฟองสบู่แตก ภาคธุรกิจ ภาคครัวเรือน เดือดร้อนกันถ้วนหน้า หลวงตามหาบัว ตัดสินใจจัดผ้าป่าช่วยชาติ ขึ้นเพื่อปลุกความหวังของคนไทย จากนั้นได้นำเงินก้อนแรกที่ได้จากลูกศิษย์และประชาชนมามอบให้ ธปท. จากนั้นการระดมทุนในครั้งต่อมาเน้นที่การบริจาคทองคำ และมอบทองคำให้กับ ธปท. ครั้งแรกเมื่อ 4 พ.ค.2542 โดยมี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ผู้ว่าการ ธปท. ในขณะนั้นเป็นผู้รับมอบจำนวน 83 แท่ง น้ำหนัก 1,036.738 กิโลกรัม เป็นทองคำกว่า 1 ตัน ตามที่หลวงตามหาบัว ตั้งใจไว้ พร้อมเงินอีก 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ต่อมาหลังหลวงตามหาบัวมรณภาพแล้วตั้งแต่ปี 2544 แต่ก็ยังคงจัดผ้าป่าช่วยชาติและมอบทองคำเข้าคลังหลวงอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ที่นี่เรามาดูประเด็นการเก็บตุนสะสมทองของธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะจีนและรัสเซีย ยังคงซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ความต้องการทองคำที่สูงขึ้นจากธนาคารกลางเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยพยุงราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ในระยเวลา 10 ปี ถึงปี 2567 สัดส่วนทองคำในทุนสำรองเพิ่มขึ้นจากราคาที่พุ่งสูงมากกว่า 2 เท่า
และธนาคารกลางทั่วโลกถือครองทองคำเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในช่วง 3 ปี หลังสงครามรัสเซีย-ยูเครน ในปี 2567 มีการซื้อสุทธิ 1,045 ตัน คิดเป็น 96,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งประเทศที่เข้าซื้อทองคำมากที่สุด คือ โปแลนด์ อินเดีย ตุรกี และยังคงซื้อทองคำต่อเนื่องในปีนี้ 2568 เดือน ม.ค. มีปริมาณการซื้อสุทธิ 18 ตัน

ส่วนไทยถือครอง “ทองคำ” มากที่สุดในอาเซียน และเป็นอันดับ 4 ของเอเชีย อันดับ 17 ของโลก จากรายงานของ World Gold Council (ข้อมูล ณ สิ้นไตรมาส 4 ปี 2567):
- ปี 2567 ไทยมีทองคำสำรอง 234.52 เมตริกตัน
- คิดเป็นมูลค่าราว 19,672.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
และบริหารจัดการโดยธนาคารแห่งประเทศไทยและเก็บรักษาภายในประเทศ
การเก็บตุนสะสมทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของทองคำในฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศ ท่ามกลางความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้าที่เพิ่มขึ้น