แข่งเดือดสงครามราคา "บุฟเฟต์หม้อสุกี้" ตี๋น้อย VS เอ็มเค
ดุเดือดที่สุดตอนนี้คงนี้ไม่พ้น การแข่งขันเรื่องสงครามบุฟเฟต์ของสุกี้ 2 เจ้าดัง ทั้ง สุกี้เอ็มเค และ สุกี้ตี๋น้อย ซึ่งจากเดิมสองเจ้านี้มีกลุ่มลุกค้าต่างกัน
สุกี้ตี๋น้อย ทำกลยุทธ์บุฟเฟต์มาตั้งแต่เริ่ม โดย บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด เปิดตัวเมื่อปี 2562 โดยมี บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (JMART) ถือหุ้น 30%
โดย สุกี้ตี๋น้อย มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 68 อยู่ที่ 271 ล้านบาท ปัจจุบันมี 82 สาขา เป็น ตี๋น้อย บาร์บีคิว ซึ่งเป็นปิ้งย่าง และตี๋น้อย บุฟเฟต์พรีเมียม 1 สาขา
ในไตรมาส 1 เปิดสาขาเพิ่ม 4 สาขา ซึ่งขยายออกไปต่างจังหวัด บุฟเฟต์ปิ้งย่าง 2 สาขา ได้แก่ พิษณุโลก บุรีรัมย์ หนองคำย และนครสวรรค์ โดยมองว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพ

JMART มีส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้นตี๋น้อย 79 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปั 2568
สำหรับ กลยุทธ์บุฟเฟต์ สุกี้ตี๋น้อยใช้กลยุทธ์ สุกี้ 219 บาท ทานได้ทุกอย่าง ถ้ารวมเครื่องดื่มด้วยทำให้ราคาต่อหัวสุทธิอยู่ที่ 276 บาท ทานได้ 2 ชั่วโมง

ขณะที่ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 รายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 3,541 ล้านบาท ลดลง 405 ล้านบาท ลดลงถึง 10.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า กำไรสุทธิอยู่ที่ 234 ล้านบาท ลดลงถึง 33% จาก 347 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2567 มีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มครอบครัว ผู้สูงอายุ และขายอาหารอะลาคาร์ท (A la carte)
โดยที่ผ่านมาสุกี้เอ็มเค พยายามทำแคมเปญที่หลากหลาย เช่น ช่วงตรุษจีน เปลี่ยนชื่อ MK เป็นชื่อเป็น มงคล (MongKol) และล่าสุด ปรับมาลงสนามบุฟเฟต์ด้วยราคาสุทธิ คนละ 299 บาทในบางสาขา มีเมนูอาหารให้เลือกทั้งหมด 19 เมนู กินได้ 1 ชั่วโมง 30 นาที ตั้งแต่วันที่ 9-30 มิถุนายน นี้ แต่ก็เกิดปัญหาสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการจนทำให้ต้องออกมาขอโทษ
ยังไม่ทันข้ามวันสุกี้ตี๋น้อย ก็ออกมาแก้เกม ด้วยการจัด โปรบุตเฟต์สุกี้ 199 บาท ยังไม่รวมเครื่องดื่มและภาษีมูลค่าเพิ่ม เริ่ม 11 มิ.ย.2568 - 30 มิ.ย.68
ต้องบอกว่าสงครามหม้อไฟ ของ 2 สุุกี้เจ้าดังกำลังสู้กันอย่างดุเดือด บนสนามสงครามราคา