แจ้งเกิดแบรนด์พรีเมี่ยมจีน ! GWM TANK 500 ท้าชนญี่ปุ่น-พรีเมี่ยมยุโรป

เผยแพร่: 20 ก.ย. 2566

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในรุ่น TANK 500 ถือได้ว่าน่าสนใจทั้งเรื่องของการดีไซน์ และสมรรถนะ รวมถึงการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ เหลืออย่างเดียวคือ ราคา !

GWM Tank 500 Hybrid SUV รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่มาพร้อมการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ไว้กึ่งกลางระหว่าง รถกระบะดัดแปลง (พีพีวี) แบรนด์ญี่ปุ่น กับ รถยนต์อเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม แบรนด์ยุโรป ซึ่งมีจุดเด่นที่ระบบการขับขี่แบบออฟโรดจัดเต็ม

ส่องสเปก GWM TANK 500 Hybrid SUV ก่อนเปิดราคา 28 ก.ย. นี้

เกรท วอลล์ มอเตอร์ กางแผนปี'66 ส่ง 5 รุ่นลุยตลาดดันยอดแตะ 1.8 หมื่นคัน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เผยยอดจองสิทธิ์ GWM TANK 500 สัปดาห์เดียว 1,000 คัน

ที่น่าสนใจคือ คันนี้ทั้งมีความหรูหรา และความอเนกประสงค์ ในการใช้งาน แถมยังสัมผัสได้ถึงความพรีเมี่ยมอีกด้วย แต่ทุกอย่างที่กล่าวมานี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากแบรนด์จีน

ซึ่งหากปิดโลโก้ไม่เห็นแบรนด์คุณภาพผลิตภัณฑ์และอารมณ์ความรู้สึกนั้นต้องบอกว่า เดาไม่ออกเลยว่านี่คือแบรนด์จีน

มิติตัวถังของ Tank 500 Hybrid มีความกว้างและสูง ใหญ่สุดในคลาสของพีพีวี ที่ 1.9 เมตร และความยาวของตัวรถ 5 เมตร ซึ่งด้วยความใหญ่โตขนาดนี้และดีไซน์การออกแบบที่ดูมีความแข็งแรงบึกบึน ใช้ความเหลี่ยมคมของเส้นสายตัวรถที่มากกว่าความโค้งมน

ที่สำคัญฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีของรถยนต์คันนี้จัดเต็มแบบไม่กั้กจริง ๆ ถ้าจะเรียกว่ารวมจุดเด่นของทุกคู่แข่งที่รถยนต์คันนี้นำไปเปรียบเทียบนั้น มีอยู่ในคันนี้ทั้งหมด ตัวอย่างเช่น ถ้าจะหาระบบออฟโรดขั้นสูงก็ไม่มีใน พีพีวี และจะมีอีกทีนึงก็พรีเมี่ยมเอสยูวีที่ราคาเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไป เป็นต้น

สมรรถนะคันนี้ถูกตั้งค่ามาเพื่อผู้บริโภคชาวไทย ราวกับศึกษาตลาดมาอย่างยาวนาน เพราะด้วยความเนี๊ยบของช่วงล่างที่ดีกว่าพีพีวี แต่ก็อาจจะไปไม่ถึงขั้นพรีเมี่ยมเอสยูวี ซับแรงกระแทกได้ดี มีอาการโคลงตัวน้อย แรงจากพื้นถนนส่งเข้ามาภายในห้องโดยสารน้อย แต่ก็ไม่ถึงขั้นนุ่มนวลชวนฝัน และนอกเหนือจากนั้น เมื่อต้องการสมรรถนะการขับขี่ช่วงล่างของเจ้า Tank 500 ก็เก็บทรงดีพอสมควร ขอแค่อย่างเดียวคือ อย่าเปลี่ยนช่องทางกระทันหัน เพราะด้วยน้ำหนักตัวรถและความสูง ก็จะมีอาการเยอะหน่อย แต่ถ้าปกติคือดี

เครื่องยนต์มาพร้อมขุมพลังไฮบริด ซึ่งไฮบริดในเจ้า Tank 500 คันนี้ ต้องเน้นย้ำเลยว่า ไม่ใช่ ไฮบริดเพื่อการประหยัดพลังงาน แต่เป็นไฮบริดที่เสริมพละกำลังของเครื่องยนต์ เพราะเครื่องยนต์ของรถคันนี้เป็นเครื่องยนต์ เบนซิน 2.0 ลิตร มาพร้อมเทอร์โบแปรผัน ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า และ เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด เพราะเอามาทดแทนความคาดหวังของคนที่สนใจรถยนต์ในกลุ่มนี้ที่ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล เลยต้องมีมอเตอร์ไฟฟ้ามาชดเชยกำลัง

อารมณ์ความรู้สึกต้องบอกเลยว่าอาจจะไม่ได้แรงหลังติดเบาะ แต่เมื่อไรที่กดคันเร่งก็ถือได้ว่ามีอัตราเร่งที่ดีตอบสนองดีพอสมควรเบบค่อยเป็นค่อยไป เมื่อเทียบกับการแบกน้ำหนักของตัวรถที่อยู่ที่ 2.5-2.6 ตัน การตอบสนองของเครื่องยนต์นี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งในครั้งนี้ใช้งานแบบในเมืองที่เชื่อว่าจะเป็นสัดส่วนหลักในการใช้ของคนที่ซื้อรถคันนี้ไป แต่ถ้าต้องการจะออฟโรดแบบจริงจัง คันนี้ก็ทำได้แบบเต็มพอกัดเช่นเดียวกัน

ระบบความปลอดภัยอัดแน่นเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือการอัปเกรดเทคโนโลยีบางอย่างให้ฉลาดมากยิ่งขึ้น ใช้งานสะดวกสบาย เพราะด้วยการออกแบบดีไซน์ของห้องโดยสารที่หรูหราพรีเมี่ยมให้อารมณ์ความรู้สึกดีตั้งแต่เปิดประตู อันนี้ถือเป็นจุดเด่นทั้งหมดของยนต์คันนี้

เหลือก็แต่ ราคา ! ซึ่งถ้าตรงกับตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่วางไว้อย่างที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ คำนวนไว้ตั้งแต่แรกจะถือเป็นการกำหนดตำแหน่งผลิตภัณฑ์และมีที่ยืนอย่างมากของแบรนด์พรีเมี่ยมจีน ซึ่งหากถามความเห็นส่วนตัวของผมมองว่า ควรจะเริ่มที่ 1.999 ล้านบาท ในตัว PRO เพื่อให้กินตลาดในส่วนของกลุ่มพีพีวี และ ไปจบราคาที่ 2.xx ล้านบาท ในตัว ULTRA เพื่อให้กินตลาดของพรีเมี่ยมเอสยูวี แต่ราคาอย่างเป็นทางการจะเป็นเท่าไรคงต้องรอติดตามในวันที่ 28 กันยายน นี้