BFGoodrich โชว์สมรรถนะยาง Off Road - On Road ครั้งแรกในเอเชียที่ไทย

นับเป็นครั้งแรกของ BFGoodrich (บีเอฟกู๊ดริช) ที่ได้มีการจัดงาน BFGoodrich Day ประจำปี 2566 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 200 ชีวิต จาก 8 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย ได้แก่ ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, นิวซีแลนด์, ฟิลิปปินส์, เกาหลีใต้, ประเทศไทย และเวียดนาม เข้าร่วมงาน ประกอบไปด้วย ผู้จัดจำหน่าย, สื่อมวลชน และ อินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

รู้จัก ระบบจำลองเสมือนจริงของ 'มิชลิน' พัฒนายางล้อ-เพิ่มสมรรถนะแข่งรถ

เปิดฉากการแข่งขัน Toyota Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน 2023

ภายในงานได้มีการจัดแสดงนิทรรศการและนวัตกรรมของยางรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ของ BFGoodrich ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันครบทุกรุ่น ทั้งยางออฟโรด และ ยางทางเรียบ ประกอบไปด้วย

ยางออฟโรด

• บีเอฟกู๊ดริช เทรล เทอร์เรน ที/เอ (BFGoodrich Trail Terrain T/A) ยางระดับพรีเมียมที่ให้สมรรถนะเหนือกว่าบนทางเรียบและรองรับการขับขี่นอกเส้นทางลาดยางที่ไม่สมบุกสมบันมากนัก
• บีเอฟกู๊ดริช ออล-เทอร์เรน ที/เอ เคโอ2 (BFGoodrich All-Terrain T/A KO2) ยางสำหรับรถยนต์ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4x4) และระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (4x2), รถเอสยูวี และรถกระบะยกสูง ซึ่งมาพร้อมแรงยึดเกาะตะกุยที่ทรงพลัง จึงใช้งานออฟโรดได้ดีแม้ในภูมิประเทศสุดโหด
• บีเอฟกู๊ดริช มัด-เทอร์เรน ที/เอ เคเอ็ม3 (BFGoodrich Mud-Terrain T/A KM3) ยางที่ลุยได้ทุกสภาพเส้นทางหฤโหดสำหรับชาวออฟโรดตัวจริง

ยางทางเรียบ

• บีเอฟกู๊ดริช แอดแวนเทจ ทัวร์ริ่ง (BFGoodrich Advantage Touring) ยางรถยนต์สำหรับวิ่งบนทางเรียบที่ให้ความคุ้มค่าเหนือกว่า ได้รับการออกแบบให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพถนน โดยเฉพาะการขับขี่ประจำวันในเขตเมือง 
• บีเอฟกู๊ดริช จี-ฟอร์ซ ฟีนอม ที/เอ (BFGoodrich g-Force Phenom T/A) ยางรถยนต์สมรรถนะสูงพิเศษสำหรับวิ่งบนทางเรียบที่ออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพยานยนต์สู่อีกระดับที่เหนือกว่าทั้งบนถนนเปียกและถนนแห้ง

PPTVHD36 เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวเพื่อสัมผัสสมรรถนะของยางชนิดต่าง ๆ ในทุกสภาพถนนทั้งเปียกและแห้ง พร้อมได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาอันยาวนานของแบรนด์ที่มีมานานกว่า 150 ปี โดย บีเอฟกู๊ดริช เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2413 โดย ดร.เบนจามิน แฟรงคลิน กู๊ดริช และได้รวมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มมิชลินตั้งแต่ปี 2533  นวัตกรรมที่โดดเด่นของบีเอฟกู๊ดริช ได้แก่ ยางเรเดียลรุ่นแรกที่ผลิตในอเมริกา, ยางเรเดียลรุ่นแรกของโลกสำหรับทุกสภาพภูมิประเทศ (All-Terrain) และสำหรับเส้นทางทุรกันดารที่ขรุขระและเป็นดินโคลน (Mud-Terrain), ยางล้อสำหรับกระสวยอวกาศ ‘โคลัมเบีย’ (Columbia) ฯลฯ  นอกจากนี้ ยางบีเอฟกู๊ดริช ยังคว้าชัยในการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ตยอดนิยมระดับโลกหลายรายการ อาทิ เลอ มังส์ 24 ชั่วโมง (Le Mans 24 Hours), บาฮา 1000 (Baja 1000) และ ดาการ์ แรลลี่ (Dakar Rally)
 

ไฮไลต์พิเศษในงาน BFGoodrich Day คือการได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่จากกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ 5 ฐาน โดย 2 ฐานเป็นการขับแบบออฟโรด (ได้แก่ Cross Country, Hotlap และ Off-Road Buggy) ณ Wild Calling Farm Park ลานแคมป์ปิ้งเอกชนท่ามกลางขุนเขาที่โอบล้อม อีก 2 ฐานเป็นการขับทางเรียบ (ได้แก่ Handling & Braking, Mini Circuit และ Hotlap)  ณ 8 Speed Motor Track สถานที่สำหรับจัดกิจกรรมหลากรูปแบบบนพื้นที่ 50 ไร่ โดยไม่จำกัดอยู่เพียงการแข่งรถ และฐานสุดท้ายเป็นการขับบนเส้นทางออฟโรดสู่ “เขายายเที่ยง” เพื่อชมทิวทัศน์

สิ่งที่เราได้สัมผัสกับประสบการณ์ในการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้คือ สมรรถนะของยางรถยนต์ทุกประเภทของ BFGoodrich ที่วันนี้แบรนด์ดังกล่าวไม่ได้มีเพียงเฉพาะยางสำหรับออฟโรดเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้มีการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ไปยังทางเรียบอีกด้วย 

โดยเฉพาะ BFGoodrich g-Force Phenom T/A ยางชนิดนี้ที่ใส่ไว้ในรถยนต์ประสิทธิภาพสูงและมีการขับขี่แบบจับเวลา รวมถึงการ 'แกล้งยาง' ที่แบ่งครึ่งวงกลมเป็นแห้งและเปียกแบบต่อเนื่องกัน สิ่งที่ได้สัมผัสเลยคือประสิทธิภาพที่เห็นได้ชัดเลยว่ามีการการยึดเกาะถนนที่ดีทั้งในสภาพเปียกและแห้ง ด้วยการออกแบบดอกยางที่มีผิวสัมผัสทางด้านนอกของยางที่กว้างเพื่อให้ได้พื้นที่ผิวสัมผัสกับถนน ส่วนด้านในมีร่องดอกยางสำหรับการรีดน้ำได้ดี 

เราขับเปรียบเทียบกันระหว่างยางของ บีเอฟกู๊ดริช กับยางคู่แข่งแบรนด์อื่นเห็นได้ชัดว่าการยึดเกาะของ บีเอฟกู๊ดริช ในรุ่นดังกล่าวนี้ดีกว่าอย่างชัดเจน บนสภาพพื้นผิวเดียวกัน รวมถึงการเบรกในสภาพถนนเปียก (Wet Brake) ที่ บีเอฟกู๊ดริช มีระยะทางการเบรกที่สั้นกว่า

ขณะเดียวกันอีกรุ่นที่ประทับใจคือ BFGoodrich Trail Terrain T/A ที่ บีเอฟกู๊ดริช ออกแบบมาสำหรับการเป็นยางที่สามารถทำได้หลากหลายกิจกรรมทั้งขับขี่ในเมืองและลุยทางออฟโรดได้ ซึ่งเราออกเดินทางด้วยยางดังกล่าวมุ่งหน้าไปสู่ เขายายเที่ยง ได้สัมผัสถึงถนนหลวงที่ใช้ความเร็วและทางออฟโรดที่มีทั้งทางฝุ่นและทางหิน ซึ่งได้รับรู้ถึงฟีลลิ่งได้อย่างครบรส 

ยาง Trail Terrain ในรุ่นนี้มีความต่างกับยาง All-Terrain ตรงที่ ยาง Trail Terrain จะมีความนุ่มกว่าและเงียบกว่า แต่ถ้าถามถึงการลุยก็อาจจะไม่เท่า All-Terrain ซึ่งสิ่งที่ได้คือความหลากหลายในการใช้งานทีมากกว่า และมีความทนทานไม่แพ้กัน ซึ่งตั้งแต่ออกจากเขาใหญ่ไปสู่เขายายเที่ยง ได้สัมผัสถึงความนุ่มสบายตลอดการเดินทางในทุกสภาพถนน

ถึงวันนี้แบรนด์ BFGoodrich ในประเทศไทย มีทางเลือกผลิตภัณฑ์เป็นยางทางเรียบเพิ่มขึ้นมาให้กับผู้บริโภค นั่นคือความท้าทายอย่างหนึ่งที่แบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งของยางออฟโรดขยายผลิตภัณฑ์ไปกลุ่มใหม่ จะต้องทำการตลาด, การวางตำแหน่งราคา และขยายการรับรู้รวมถึงการเข้าไปครองใจผู้บริโภค แต่สิ่งที่ยืนยันได้อย่างหนึ่งเลยคือ 'คุณภาพและประสิทธิภาพ' ที่มั่นใจได้ตั้งแต่ยางออฟโรดไปจนถึงยางทางเรียบซึ่งเราได้สัมผัสมาตลอดในกิจกรรมนี้

“เงินอุดหนุนบุตร” เช็กเงื่อนไขรับสิทธิ-ปฏิทินรับเงิน ที่นี่!

JKN ยื่นศาลล้มละลายกลาง ขอฟื้นฟูกิจการ แก้ปัญหาสภาพคล่อง

คปภ. ลงดาบ..! เพิกถอนใบอนุญาต ตัวแทนประกันชีวิต ขายข้อมูลลูกค้าให้มิจาฉาชีพ