NETA เผยปี'65 ธุรกิจประสบปัญหา ปิดยอดส่งมอบได้ 989 คัน
บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งเป้าปี 2566 ส่งมอบได้ 10,000 คัน ยอมรับไม่นิ่งนอนใจปัญหาส่งมอบล่าช้า
นาย เป่า จ้วงเฟย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังการเปิดตัวแบรนด์ เนต้า (NETA) ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปี 2565 บริษัทสามารถส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในรุ่น เนต้า วี (NETA V) ที่เป็นรุ่นแรกของแบรนด์ได้จำนวน 989 คัน
ผ่าแผนธุรกิจ 'เนต้า ออโต้' ตั้งราคารถยนต์ไฟฟ้าสู้อีโคคาร์
เนต้า ออโต้ เตรียมแนะนำ 'NETA U' สู่ตลาดในไทยปี 2566
ทั้งนี้ ในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทประสบปัญหาการส่งมอบล่าช้า จากขั้นตอนการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างหน่วยงานเพื่อเข้าร่วมโครงการของรัฐ แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยจะดำเนินการเร่งส่งมอบให้กับลูกค้าทุกท่านโดยเร็วที่สุด
นอกจากนั้น บริษัทยังให้ความสำคัญด้านบริการหลังการขายด้วยการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ และเตรียมอะไหล่สำรองให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้า ซึ่งครอบคลุมถึงการให้คำแนะนำด้านผลิต และความรู้พื้นฐานด้านการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า พร้อมบริการช่วยเหลือลูกค้ากรณีฉุกเฉินผ่าน NETA Call Center ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
ปีที่ผ่านมาเราได้ลงนามข้อตกลงเพื่อลงนามเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของภาครัฐ โดยร่วมมือกับ บริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จำกัด หรือ BGAC ในการประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่โรงงานประกอบรถยนต์บางชัน ในนิคมอุตสาหกรรมบางชัน เขตคันนายาว กรุงเทพฯ เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศ โดยจะเริ่มสายพานการผลิตได้ภายใน ปี 2567
นาย เป่า กล่าวว่า ปี 2566 บริษัทตั้งเป้าส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าให้ลูกค้าชาวไทยจำนวน 10,000 คัน ด้วยการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่และเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ โดยแผนการขยายผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี 2566 จะเพิ่มขึ้นเป็น 30 แห่ง จากปัจจุบันมีจำนวนอยู่ที่ 24 แห่ง เพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น
ด้านภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ปี 2566 มองว่าจะอยู่ที่ราว 25,000-30,000 คัน เติบโตขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ลงสู่ตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าแบรน์ต่าง ๆ อีกทั้งจำนวนสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
สำหรับ ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ NETA ขยายธุรกิจออกนอกประเทศจีนเป็นครั้งแรกในปีที่ผ่านมา และได้มีการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ ลาว, พม่า, ภูฏาน, เนปาล, อิสราเอล, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ภายใต้แผนกลยุทธ์ดังกล่าวประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกและรายใหญ่ที่สุดของอาเซียนอีกทั้งยังมีนโยบายการสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรมถูกวางตำแหน่งให้เป็นศูนย์กลางของการดำเนินธุรกิจของ NETA ในภูมิภาคนี้
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของ NETA ทั่วโลกในปี 2565 ส่งมอบรถยนต์ได้รวม 152,073 คัน เติบโตขึ้น 118% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นการส่งมอบให้กับลูกค้าในตลาดต่างประเทศ (นอกประเทศจีน) จำนวน 3,456 คัน
ยอดการส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในปี 2565 รวม 152,073 คัน แบ่งเป็นยอดการส่งมอบดังนี้
- NETA V จำนวน 98,847 คัน เติบโตขึ้น 99%
- NETA U จำนวน 51,021 คัน เติบโตขึ้น 155%