กรมขนส่งฯ ห้าม!ติดบังโคลนยื่นเกินตัวรถ ฝ่าฝืนโทษปรับสูงสุด 50,000 บาท
กรมการขนส่งทางบก เตือน รถบรรทุกห้ามติดตั้งบังโคลนยื่นออกเกินจากตัวรถ ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 50,000 บาท แนะ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เลี่ยงจุดเสี่ยง
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ตามที่มีข่าวในโซเชียลมีเดีย กรณีที่รถบรรทุกติดตั้งบังโคลนยื่นออกนอกตัวรถไปเฉี่ยวชนผู้ใช้รถใช้ถนน ทำให้เกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก กรมการขนส่งทางบกในฐานะหน่วยงานที่กำกับ ดูแล การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ขับรถบรรทุกและรถโดยสาร ขอเตือนผู้ประกอบการและผู้ขับรถบรรทุก ห้ามทำการแก้ไขเพิ่มเติมหรือดัดแปลงสภาพเครื่องอุปกรณ์หรืออุปกรณ์ส่วนควบของรถให้ผิดไปจากที่กฎกระทรวงได้กำหนดไว้ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ร่วมทางได้
เช่น ต่อเติมตัวถังกระบะบรรทุกให้มีขนาด กว้าง ยาว สูง เกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด, ติดตั้งแผ่นยางบังโคลนยื่นล้ำเกินออกนอกตัวรถ หรือติดตั้งโคมไฟสปอร์ตไลท์ หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับสูงสุด 50,000 บาท ตามมาตรา 71 ประกอบมาตรา 148 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการดัดแปลงสภาพรถบรรทุกที่ผิดกฎหมายส่วนใหญ่คู่กรณีจะเป็นรถจักรยานยนต์ จึงขอแนะนำผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่รถเข้าไปในจุดบอดของรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยจุดบอดของรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ มี 4 จุด ได้แก่
1. บริเวณด้านหน้าของรถบรรทุกและรถขนาดใหญ่
2. ด้านขวาของรถบรรทุกและรถขนาดใหญ่ ซึงเป็นจุดที่บดบังทัศนวิสัยในการมองเห็น โดยเฉพาะในระยะประชิด เนื่องจากความสูงของตัวรถ
3.ด้านหลังของรถบรรทุก ผู้ขับรถบรรทุกไม่สามารถมองเห็นด้านหลังของรถจากกระจกมองหลังได้
4. ด้านซ้ายของรถบรรทุก ซึ่งเป็นพื้นที่อันตรายที่สุด เนื่องจากเป็นจุดที่มีทัศนวิสัยแคบ ผู้ขับรถบรรทุกสังเกตเห็นรถคันอื่นได้ยาก ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์จึงควรหลีกเลี่ยงขับขี่รถเข้าไปอยู่ใกล้พื้นที่จุดบอดของรถบรรทุกในทุกกรณี
นอกจากจุดบอดของรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ควรหลีกเลี่ยงแล้ว พื้นที่บริเวณไหล่ทางยังเป็นพื้นที่เสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุที่ควรระมัดระวังเป็นอย่างมาก โดยกรมการขนส่งทางบกได้ประสานขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกกำชับพนักงานขับรถหลีกเลี่ยงการจอดรถบริเวณทางเดินรถหรือไหล่ทางในช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดต่อเนื่อง เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขณะขับรถต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับรถ และต้องสวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่ทั้งผู้ขับรถและผู้ซ้อนท้ายรถ แนะนำให้ประชาชนเลือกใช้หมวกนิรภัยที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หมั่นตรวจสอบสภาพรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยต่อตัวผู้ขับขี่เองและผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน