8 วิธีเลี่ยง “มะเร็งตับ” ใครบ้างเสี่ยง ? ควรตรวจสุขภาพแบบเจาะจง
“มะเร็งตับ” โรคร้ายอันดับหนึ่งในกลุ่มมะเร็งผู้ชาย เกิดได้จากหลายปัจจัย การลดความเสี่ยงของพฤติกรรมสามารถลดอัตราเกิดโรคได้ เช็ก 8 วิธีเลี่ยงมะเร็งตับ
มะเร็งตับมีปัจจัยเสี่ยงหลายปัจจัย ทั้งจากเกิดจากเซลล์ตับโดยตรง หรือ มะเร็งลุกลามมาจากที่อื่น ซึ่งในอาการเริ่มแรกส่วนใหญ่มักไม่มีอาการและตรวจพบอีกครั้งในระยะที่ลุกลามแล้ว จึงทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ราว 3-6 เดือน จึงเป็นเรื่องที่ควรตระหนักถึงสัญญาณเตือนโรคและการเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้ต้องป่วย ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็งชนิดไหน
8 วิธี ลดปัจจัยเสี่ยงไม่ให้ป่วยเป็นมะเร็งตับ
- งด-ละ-เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างที่ทราบว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับแข็งที่อาจนำไปสู่การเป็นมะเร็งตับ
สัญญาณมะเร็งตับ ที่อาจคร่าชีวิตได้ใน 6 เดือน ใครบ้างกลุ่มเสี่ยง?
“มะเร็งตับ” ทำไมเสียชีวิตเร็ว? มีกี่ระยะ? อาการแบบไหน ควรพบแพทย์เร่งด่วน
- เลี่ยงของหมัก-ดอง เพราะสารที่เกิดจากของหมักดองมีส่วนทำให้เกิดมะเร็งที่ตับได้
- เลี่ยงการทานยามากเกินไป เพราะยาเกือบทุกชนิดส่งผลต่อตับ ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
- เลี่ยงอาหารที่ปนเปื้อนสารแอฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ก่อมะเร็งตับ ได้แก่ ถั่วลิสง พริกแห้ง พริกป่น ข้าวโพด ควรเลือก วัตถุดิบแห้งที่อยู่ในสภาพใหม่ บรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน
- เลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์ อย่าง เบเกอรี่ พาย คุกกี้ แยมโรล เค้กเนยสด ครีมเทียม ฯลฯ โดยสังเกตฉลากก่อนซื้อ เพราะอาหารไขมันสูงส่งผลให้ตับทำงานหนักในการสร้างน้ำดีมาย่อยอาหาร
- ทานวิตามินรวมเสริมเพื่อช่วยบำรุงตับ แต่ควรเลือกผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือและปรึกษาแพทย์ก่อนทาน
- ควบคุมน้ำหนัก ไม่ให้เสี่ยงกับโรคเบาหวานและโรคอ้วน เพราะเป็นต้นเหตุสำคัญของโรคมะเร็งตับ
- ตรวจเลือดเพื่อดูว่ามีไวรัสตับอักเสบบีหรือซี หากไม่มีเชื้อสามารถให้วัคซีนได้ หากมีเชื้อก็ควรให้แพทย์ดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ควรออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำ หากพบมะเร็งตับในระยะเริ่มต้นสามารถรักษาให้หายได้
สัญญาณมะเร็งตับ ที่อาจคร่าชีวิตได้ใน 6 เดือน ใครบ้างกลุ่มเสี่ยง?
บุคคลที่ควรรับการตรวจคัดกรองมะเร็งตับ
- ผู้ที่มีตับแข็ง ไม่ว่าเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม
- ผู้ที่เชื้อไวรัสตับอักเสบบี
- เพศชายที่อายุมากกว่า 40 ปี
- เพศหญิงที่อายุมากกว่า 50 ปี
- ญาติสายตรงเป็นมะเร็งตับ
- ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังที่มีพังผืดสะสมในตับมาก
ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ในการตรวจ อย่างเช่น การอัลตราซาวนด์ช่องท้องส่วนบน ,การตรวจเลือดเพื่อวัดระดับค่ามะเร็งตับอัลฟ่าฟิโตโปรตีน หรือ AFP,การตรวจอวัยวะภายในช่องท้องส่วนบนโดยใช้คลื่นความถี่สูง (Ultrasound Upper Abdomen) ,การตรวจวัดปริมาณไขมันสะสมในตับ (Fibro Scan) เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ
วิธีกินยาแก้ปวดหัว ไม่ให้เกิดขนาด ปริมาณเหมาะสม ไม่เสี่ยงตับวาย-ไตพัง