วาย.เอส.เอส. ทุ่ม 400 ล้านบาท ผุดแฟลกชิพสโตร์ทันสมัยที่สุดของโลกในไทย
YSS แย้มแผน เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี'66 พร้อมเผยผลประกอบการปี' 65 ทะลุ 1,000 ล้านบาท
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานกรรมการ บริษัท วาย.เอส.เอส. (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดศูนย์ “YSS D.C.” ซึ่งเป็นทั้งสำนักงานใหญ่ ศูนย์บริการและศูนย์กระจายสินค้าแบบครบวงจร (Distribution and Service Center) โดยใช้เงินลงทุนมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายส่วนได้แก่ โชวร์รูม, พิพิธภัณฑ์, ศูนย์บริการ, ระบบบริหารคลังสินค้า, ระบบจัดเก็บและจ่ายสินค้าอัตโนมัติ, พื้นที่คอมมูนิตี้ (Community), พื้นที่ไลฟ์สไตล์
พาชม Toyota Yaris Hatchback 2023 โมหน้าใหม่ เติมออปชั่น เสริมความสด
แรงหนุนเปิดประเทศ SHR วางเป้าหมื่นล้าน หวังรัฐบาลใหม่ช่วยฟื้นท่องเที่ยวดึงต่างชาติ
ทั้งนี้ ศูนย์ YSS D.C. (YSS Distribution and Service Center) เป็นต้นแบบของอุตสาหกรรมอะไหล่ยนต์ ในการให้บริการและกระจายสินค้าอย่างครบเครื่องและทันสมัยที่สุด และยังเป็นแฟลกชิพสโตร์แห่งแรกของประเทศไทยและทั่วโลก เพื่อให้เป็นศูนย์ฯต้นแบบของบริษัท หลังจากนั้นจะกระจายไปยังที่อื่นๆ ในส่วนภูมิภาคในรูปแบบของบริษัทลงทุนเอง หรือให้ตัวแทนจำหน่ายของบริษัทเป็นผู้ลงทุนในรูปแบบของแฟรนไชส์ในอนาคต
นาย ภิญโญ พานิชเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วาย.เอส.เอส. (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า ผลประกอบการปี 2565 ของบริษัทอยู่ที่ 1,070 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนตลาดในประเทศ 49% จำนวน 519 ล้านบาท และตลาดส่งออก 51% จำนวน 551 ล้านบาท และยังมีแผนที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในปี 2566 เพื่อหาพันธมิตร และพัฒนาธุรกิจให้แข็งแกร่งเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าอย่างต่อเนื่อง
โดยปัจจุบัน YSS มีสินค้ารองรับทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์รวมถึงยานพาหนะประเภทอื่นๆ มากกว่า 8,200 รายการ ครอบคลุมกว่า 3,100 โมเดลทั่วโลก มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาดโลกกลุ่มสินค้าประเภทประสิทธิภาพสูง (High Performance) มีกำลังการผลิตมากกว่า 1.5 ล้านชิ้นต่อปี มีศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Center) มากถึง 6 แห่งทั่วโลก ได้แก่ ประเทศไทย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ฮอลแลนด์ สเปน และ ประเทศอิตาลี ส่งออกไปจำหน่ายมากกว่า 40 ประเทศ และยังมีตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศมากถึง 60 ราย รวมถึงมีศูนย์บริการ 134 แห่งทั่วโลก โดยยังวางแผนขยายไปยังประเทศอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ เยอรมันนี อิตาลี อังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ กรีก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย และ จีน ฯลฯ อีกทั้งยังเป็นโช้คอัพอันดับหนึ่งของประเทศไทยและยังเป็น 1 ใน 5 แบรนด์จากทั่วโลกที่ได้การรับรองมาตรฐานคุณภาพระดับสูง ABE จากประเทศเยอรมัน