'บีวายดี' นำทัพรถจีนชิงส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดโลกเพิ่มขึ้น 8 เท่า
จับตาสมรภูมิเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฐานที่มั่นเดิมของ 'แบรนด์ญี่ปุ่น' ที่อาจถูก 'แบรนด์จีน' ชิงตลาดจากเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าบูม
บีวายดี บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนได้มีการขยายกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาเข้าถึงง่าย ถือเป็นแรงผลักดันสำคัญในการแย่งชิงส่วนแบ่งการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ท่ามกลางการบริโภคที่ลดลงในจีน ขณะเดียวกันผู้ผลิตรถยนต์ต่างเพิ่มการส่งออกไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รุกล้ำฐานที่มั่นดั้งเดิมผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น
บีวายดี ประกาศเลิกติดชื่อแบรนด์ Build Your Dreams ที่ฝากระโปรงท้าย
เรเว่ ออโตโมทีฟ ตรวจสาเหตุไฟไหม้ BYD ATTO 3 ขณะชาร์จยืนยันไม่บิดเบือน
ในปี 2565 จีนมีส่วนแบ่งการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็น 35% ของรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก เปรียบเทียบกับปี 2561 ที่มีส่วนแบ่งการส่งออกอยู่ที่ 4.2% จากการายงานของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ
ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในปี 2561 ที่มีส่วนแบ่งการส่งออกอยู่ที่ 24.5% ในปีดังกล่าว กลับลดลงเหลือ 9.3% ในปี 2565 ส่วนสหรัฐอเมริกาและยุโรป ยังมีส่วนแบ่งที่น้อยอยู่มากเมื่อเปรียบเทียบกับทั้ง 2 ประเทศ
สำหรับในปี 2565 รถยนต์พลังงานใหม่ 40% ซึ่งรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตใน จีน และส่งออกไปยังทวีปยุโรป อย่างแบรนด์ บีวายดี (BYD) รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนตั้งเป้าหมายทวีปยุโรปเป็นปลายทางการส่งออก เช่นเดียวกับ ตงฟง มอเตอร์ กรุ๊ป (Dongfeng Motor Group) ที่ได้เพิ่มสัดส่วนการส่งออกแบรนด์ Voyah EV ไปยังอิสราเอล ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน และได้ตัดสินใจส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าไปยัง เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก และฟินแลนด์ โดยมีแผนส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์และไอซ์แลนด์ในอนาคต
ตงฟง มุ่งเน้นไปที่การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป โดยเริ่มจากการส่งออกไปยัง นอร์เวย์ ในเดือนมิถุนายน 2565 และปัจจุบันมีโชว์รูมประมาณ 10 แห่งในประเทศนั้น มีความโดดเด่นจากผู้ผลิตชาวตะวันตกโดยเน้นประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีน
ทวีปยุโรป เป็นผู้ส่งออกรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่กลับกลายเป็นผู้นำเข้าสุทธิในรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า จากข้อมูลของสมาคมข้อมูลตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน การส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่ไปยังยุโรปตั้งแต่เดือน มกราคม-มิถุนายน มีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 350,000 คัน หรือประมาณ 25% ของรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่จำหน่ายในยุโรปในช่วงเวลาดังกล่าว
การส่งออกของจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ดัชนีผู้บริโภคของจีนลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคมในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 2 ปี 5 เดือน เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ถดถอยลงมากขึ้น การแพร่กระจายของความไม่มั่นคงทางการเงินที่เกิดจากภาวะถดถอยด้านอสังหาริมทรัพย์อาจทำให้เกิดแรงกดดันต่อการบริโภคลดลง
แม้จะเผชิญกับอุปสงค์ภายในประเทศที่ลดลง รัฐบาลจีนก็ยังส่งเสริมการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ด้วยเงินอุดหนุนจำนวนมหาศาล ในอนาคตจีนน่าจะมีกำลังการผลิตส่วนเกินและหากนำไปใช้เพื่อการส่งออกก็จะทำให้ราคาตกต่ำ หากรถยนต์จีนถูกส่งออกไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ญี่ปุ่นอาจเห็นว่าความสามารถในการแข่งขันการส่งออกลดลง
S&P Global คาดว่าส่วนแบ่งของผู้ผลิตญี่ปุ่นในตลาดโลกจะลดลงจากประมาณ 30% ในปี 2565 เหลือต่ำกว่า 26% ในปี 2573 โดยความสามารถในการแข่งขันในตลาดส่งออกของรถยนต์ไฟฟ้าลดลง
ที่มา : Nikkei
ประกาศฉบับที่ 16 รับมือ “ฝนตกหนัก” จนถึง 6 ก.ย.
ลิงก์ดูสดวอลเลย์บอลหญิง ! ไทย พบ เวียดนาม ชิงแชมป์เอเชีย AVC 2023 วันที่ 4 ก.ย. 66
บีวายดี ประกาศเลิกติดชื่อแบรนด์ Build Your Dreams ที่ฝากระโปรงท้าย