ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ เปิดตัว 5 รุ่นย่อย ราคา 5.99-7.99 แสนบาท
ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ ในรุ่น e:HEV RS ราคาปรับลดลงมา 5 หมื่นบาท เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และ รุ่น VTEC TURBO RS ราคาเดิม เพิ่มเติมคือออปชั่น
นายฮิเดโอะ คาวาซากะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ (Honda City Hatchback) ที่เป็นทางเลือกสำหรับกลุ่มคนที่ชอบซิตี้คาร์ในสไตล์รถแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ซึ่งมาพร้อมขุมพลัง VTEC TURBO และ ระบบฟูลไฮบริด e:HEV โดยi5po9N ฮอนด้า ซิตี้ นับเป็นรถยนต์รุ่นยอดนิยมของแบรนด์ ฮอนด้า
ส่อง โลโก้ H Mark ใหม่ ที่จะใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นถัดไปของ ฮอนด้า
ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ ได้รับการพัฒนาขึ้นอีกขั้นด้วยดีไซน์ภายนอกใหม่รอบคัน กับกระจังหน้า กันชนหน้าและกันชนหลัง และล้ออัลลอยในดีไซน์ใหม่ เสริมลุคสปอร์ตเท่เต็มขั้นกับรุ่น RS และ e:HEV RS ที่มาพร้อมกระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่ กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ สปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ตแบบ RS และเพิ่มสเกิร์ตข้างใหม่ อีกทั้งไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ดีไซน์ใหม่ ห้องโดยสารกว้างขวาง มาพร้อมเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR) ที่สามารถปรับพับเพื่อเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้หลากหลายให้ตอบรับทุกการใช้งาน
อีกทั้งเพิ่มเติมฟังก์ชันการใช้งาน อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ที่ได้พัฒนาการแสดงผลสีของหน้าจอให้คมชัดยิ่งขึ้น พร้อมปรับโฉม Interface ใหม่ ให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น ใหม่! ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) มาพร้อม 2 ขุมพลังการขับเคลื่อนที่ขับสนุก
ทรงพลัง และยังประหยัดน้ำมัน
พร้อมทั้ง Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ที่มาพร้อมฟังก์ชันใหม่ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) และเพิ่มระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) มีเฉพาะในรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) ถุงลม 6 ตำแหน่ง กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) ที่มีการพัฒนาคุณภาพของกล้องให้มีความละเอียดสูงขึ้น เป็นต้น
รายละเอียดของ Honda City Hatchback มีดังนี้
- กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่
- กระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV)
- ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV) พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- โลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และโลโก้ e:HEV ที่ด้านท้าย เอกลักษณ์เฉพาะรถ e:HEV ของฮอนด้า (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- มือจับเปิดประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
- กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ฝาครอบกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV)
- เสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV)
- ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 15 นิ้ว (รุ่น S+) ขนาด 15 นิ้วแบบทูโทน (รุ่น SV) และแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV)
- วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีเทา (รุ่น SV และ e:HEV SV)
- วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีดำ Piano Black
- มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน ในรุ่น RS และ รุ่น e:HEV RS
- เพิ่มความสปอร์ตขึ้นอีกขั้นด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน ในรุ่น RS และ รุ่น e:HEV RS
- กระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ตแบบ RS
- กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ตแบบ RS
- เพิ่มสเกิร์ตข้าง สไตล์สปอร์ตแบบ RS
- สปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ตแบบ RS
- ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
- ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ดีไซน์สปอร์ตใหม่
- ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำเงา
- เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำเงา
- ล้ออัลลอยสีดำแบบสปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่
- วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีแดง
Honda City Hatchback มาพร้อม 2 ขุมพลังการขับเคลื่อน
1. ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ทำงานร่วมกันกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 - 3,000 รอบต่อนาที และอัตราบริโภคเชื้อเพลิงอยู่ที่ 27.8 กม./ลิตร มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์85 กรัม/กิโลเมตร และรองรับน้ำมัน E20
ทั้งนี้ ระบบฟูลไฮบริด e:HEV จะปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้โดยอัตโนมัติตามความเหมาะสมและสถานการณ์การขับขี่ ประกอบด้วย 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
อีกทั้ง เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ e:HEV SV เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่เทคโนโลยีฟูลไฮบริดจากฮอนด้าในรถซิตี้คาร์ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
2. เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว ที่มาพร้อม Turbocharger กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 - 4,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) อีกทั้งอัตราบริโภคเชื้อเพลิงอยู่ที่ 23.3 กิโลเมตร/ลิตร มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 100 กรัม/กิโลเมตร และรองรับน้ำมัน E20
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน จักรยาน และจักรยานยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย 6 ฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) (รุ่น S+, SV และ RS)
- พร้อม ใหม่! ระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) (เฉพาะรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
เทคโนโลยีด้านการขับขี่และความปลอดภัย
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น e:HEV RS)
- กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) ที่มีการพัฒนาคุณภาพของกล้องให้มีความละเอียดสูงขึ้น
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ระบบ Auto Brake Hold (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ถุงลมคู่หน้า
- ถุงลมด้านข้างคู่หน้า
- ม่านถุงลมด้านข้าง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
- ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
- ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
- ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาพร้อมระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ
- เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าและหลังแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย
- ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
- ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
เทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและฟังก์ชันล้ำสมัยเชื่อมต่อรถกับผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) ที่ได้พัฒนาการแสดงผลสีของหน้าจอให้คมชัดยิ่งขึ้น พร้อมปรับโฉม Interface ใหม่ ให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
- ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) และด้านหน้า 1 ตำแหน่ง (รุ่น S+)
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth
- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
- พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง
- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS)
- ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ปุ่ม ECON
- ลำโพง 8 ตำแหน่ง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
- กระจกมองหลังแบบตัดแสง
- แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น RS และ e:HEV RS)
- ไฟอ่านแผนที่และไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร
- ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย
- พนักเท้าแขนด้านหน้า (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
- พนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว (รุ่น RS และ e:HEV RS)
- ช่องเก็บของหลังเบาะนั่งคนขับและหลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมช่องเก็บของขนาดเล็ก
- (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
- ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
- ยกระดับชีวิตให้สมาร์ตขึ้นไปอีกขั้นกับ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ (รุ่น RS และ e:HEV RS) ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ที่ประกอบด้วย 8 ฟังก์ชันล้ำสมัยเชื่อมต่อและรองรับทุกการใช้งานของทุกไลฟ์สไตล์
ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ มีให้เลือก 2 ขุมพลังขับเคลื่อน รวม 5 รุ่นย่อย แบ่งเป็น
รุ่นขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย
- รุ่น e:HEV RS ราคา 799,000 บาท
- รุ่น e:HEV SV ราคา 729,000 บาท
รุ่นขุมพลัง VTEC TURBO มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
- รุ่น RS ราคา 749,000 บาท
- รุ่น SV ราคา 679,000 บาท
- รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท
ไหว้ตรุษจีน 2568 จุดธูปกี่ดอก เวลาไหนดี พร้อมทิศมงคลเสริมเฮง
สภาพอากาศวันนี้ ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น กทม. – 8 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง