คันไม่ใช่เรื่องเล็ก!เช็กอาการ“ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง”โรคบั่นทอนคุณภาพชีวิต
ผู้ป่วยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเพิ่มขึ้น จุฬาฯแนะผู้ป่วย-ญาติเข้าใจเหตุของโรค แม้รักษาไม่หายขาด แต่ป้องกันได้เพียงลดพฤติกรรมเสี่ยงและรักษาผิวให้ชุ่มชื้น
“คัน” เป็นอาการที่ทุกคนล้วนคุ้นเคย เพราะเคยมีอาการคันกันบ้าง แต่หากเกิดขึ้นบ่อย ๆ ต้องเกากันไม่หยุดจนน่ารำคาญ จนทำให้ผิวหนังถลอก คงทำลายความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อย
“อาการคัน” จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะหากมีอาการคันบ่อยๆ ติดต่อกันนานๆ แบบเป็นๆ หายๆ รวมทั้งมีผื่นขึ้นร่วมด้วย เหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของ “โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง” ที่ปัจจุบันพบผู้ป่วยเป็นโรคนี้มากขึ้น ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และในบางรายก็พัฒนาเป็นโรคตุ่มน้ำพองที่บั่นทอนความมั่นใจและคุณภาพชีวิต
เช็กอาการ"โควิด-ภูมิแพ้-ไข้หวัด-ไข้หวัดใหญ่" แยกความต่าง รักษาถูกวิธี
"ผู้สูงอายุ" ป่วยโควิดทำอย่างไร? เช็กอาการ - วิธีปฏิบัติของผู้ดูแล
อาการของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
สำหรับอาการของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังที่สำคัญ คือ อาการคันที่เรื้อรัง เป็นติดต่อกันมานาน มีผื่นแดงขึ้นแบบเฉพาะเจาะจง โดยเด็กอายุขวบปีแรก ผื่นจะขึ้นบริเวณแขนขาและแก้ม
แต่เมื่ออายุ 1 ปีขึ้นไปแล้ว จะพบผื่นที่เป็นลักษณะเฉพาะขึ้นบริเวณข้อพับ แขน ขา และคอ เป็นส่วนใหญ่ มีผิวแห้งโดยเฉพาะรอบ ๆ ดวงตา ลายนิ้วมือชัดขึ้น มีผื่นที่หู หัวนม หน้าแข้งมีผิวแห้งคล้ายเกล็ดปลา และโดยมาก ผู้ป่วยกลุ่มนี้อาจมีอาการทางการหายใจร่วมด้วย เช่น หอบหืด ภูมิแพ้จมูก แพ้อากาศ เป็นต้น
Holiday Heart Syndrome ระวังฉลองหนักจน "หัวใจ" พัง!
“ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง” เรื่องของเด็กที่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อีกต่อไป
สาเหตุของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเกิดจาก 2 สาเหตุสำคัญ คือ พันธุกรรมที่ก่อให้เกิดการสร้างเซลล์ผิดปกติ ทำให้ปราการป้องกันไม่ให้น้ำระเหยจากร่างกายเสียไป ผิวหนังจึงแห้งง่าย สิ่งแปลกปลอมซึมเข้าผิวหนังได้ง่าย จนเกิดการอักเสบและการระคายเคือง
ส่วนอีกสาเหตุ คือ ภูมิต้านทานของร่างกายทำงานมากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายมีความไวต่อสิ่งแปลกปลอมภายนอก อย่างเช่น การสัมผัสกับสารเคมีในชีวิตประจำวัน เช่น ผงซักฟอก สบู่ น้ำหอม เครื่องสำอาง เมื่อสัมผัสกับสิ่งแปลกปลอมที่ก่อให้เกิดการแพ้ ก็จะเกิดการระคายเคือง มีอาการคัน และมีผื่นขึ้นได้ ซึ่งถ้าหลีกเลี่ยงปัจจัยภายนอกที่ทำให้การแพ้เหล่านี้ได้ อาการก็จะหายไป
นอกจากนี้ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ก็มีส่วนที่กระตุ้นให้เกิดโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังได้เช่นกัน อาทิ การอาบน้ำอุ่นและการอยู่ในห้องแอร์ต่อเนื่องและนานเกินไป ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ผิวแห้ง และความเครียดที่ส่งผลต่อภูมิต้านทานในร่างกาย
วิธีเช็กว่าเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังหรือไม่
แนวทางการวินิจฉัยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง จะใช้ วิธีทางคลินิก โดยดูลักษณะการกระจายของผื่น ซึ่งโดยมากดูจากระยะเวลาที่เป็นผื่นนานเกิน 6 เดือนขึ้นไปและมีอาการคันร่วมด้วย นอกจากนั้นอาจมี การเจาะเลือด เพื่อดูการเพิ่มขึ้นของภูมิต้านทาน
สำหรับการทดสอบ Skin Test จะเป็นประโยชน์กับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ทางลมหายใจเพื่อดูการแพ้ของไรฝุ่น หรือแมลงชนิดต่าง ๆ ผู้ที่สงสัยว่าอาการแพ้เกิดจากการสัมผัสสิ่งแวดล้อมภายนอก อาจทำการทดสอบได้โดยนำสารที่สงสัยแปะไว้บนหลังเป็นเวลา 8-10 ชั่วโมง แล้วดูว่ามีผื่นหรือคันหรือไม่ ส่วนผู้ที่สงสัยว่าแพ้อาหาร จะทำการซักประวัติว่าแพ้อาหารอะไร และให้งดอาหารนั้น ๆ จากนั้นก็ให้รับประทานอาหารนั้น ๆ เข้าไปแล้วดูว่าจะเกิดการแพ้หรือไม่
การรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
ยาทากลุ่มสเตียรอยด์เป็นยาตัวหลักในการรักษาผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ซึ่งต้องเลือกใช้ในขนาดที่เหมาะสมและในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ตามความจำเป็น เพราะหากใช้มากเกินไปอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
“หากใช้ยากลุ่มนี้มากเกินไป และใช้ในบริเวณผิวหนังที่บอบบาง เช่น ใบหน้า รอยพับ เช่น รักแร้ ขาหนีบ หรือทาเป็นบริเวณกว้าง ก็อาจทำให้ยาถูกดูดซึมเข้าร่างกาย ไปกดการทำงานของต่อมหมวกไต คล้ายกับการรับประทานยา ส่วนผลเฉพาะที่ ก็มีส่วนทำให้ผิวหนังบาง เส้นเลือดเปราะ ติดเชื้อรา เป็นสิว ถ้าทารอบดวงตา อาจทำให้ความดันในตาสูงขึ้นได้ เพราะฉะนั้นการใช้ยา ต้องเลือกยาที่เหมาะสม ระวังบริเวณที่ใช้ และควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์” รศ.นพ.นภดล นพคุณ กล่าวเตือน
แม้ปัจจุบันมียารักษาอาการแพ้และคันที่ไม่ใช่สเตียรอยด์แล้ว แต่ราคาค่อนข้างสูง จึงมักใช้เฉพาะที่เท่านั้น สำหรับยารับประทานประเภทยาแก้แพ้ ยังไม่มีข้อพิสูจน์ทางการแพทย์ที่แน่นอนว่าช่วยรักษาได้ ยาที่ช่วยได้คือยาแก้คันที่ออกฤทธิ์กดสมองทำให้เกิดอาการง่วงได้ สำหรับผู้ที่เป็นมากและควบคุมอาการไม่ได้ก็จะใช้ยากดภูมิเข้ามาช่วยด้วย
“โรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ถ้าคนไข้และคนใกล้ชิดในครอบครัวเข้าใจสาเหตุของโรค ปรับตัวและสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้เกิดการแพ้ เช่น เสื้อผ้าขนไหม ตุ๊กตา พรม สัตว์เลี้ยง ก็สามารถอยู่กับโรคนี้ได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี และลดการใช้ยาให้น้อยลงได้” รศ.นพ.นภดล กล่าว
รศ.นพ.นภดล นพคุณ
ดูแลสุขภาพผิวเบื้องต้น เพื่อป้องกันโรค
การป้องกันโรคผิวหนังที่ดีที่สุด คือ การดูแลสุขภาพผิวพรรณให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ รศ.นพ.นภดล ได้ฝากข้อแนะนำง่าย ๆ ดังนี้
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และดื่มน้ำให้เพียงพอ
- ไม่ควรอยู่ในห้องแอร์นานกินไปเพราะจะทำให้ผิวแห้ง
- การอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเพื่อลดการติดเชื้อต่าง ๆ ไม่ควรอาบน้ำอุ่น หรือฟอกสบู่มากจนเกินไป สบู่ที่ใช้ควรมีส่วนผสมของสารเคลือบผิวเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง หลังอาบน้ำควรใช้โลชันทาผิวภายใน 3 นาที เพื่อกักเก็บน้ำไว้ในผิวหนัง
- แสงแดดเป็นตัวทำลายผิวหนัง ควรเลี่ยงแสงแดดช่วง 10.00-15.00 น. และใช้ครีมกันแดดเป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสมจะมีส่วนช่วยป้องกันรักษาผิว ไม่แก่และกร้านเร็ว อีกทั้งป้องกันโรคผิวด่างดำต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
โรคเชื้อราที่เล็บ ต้นเหตุทำให้เจ็บ คัน เล็บร่น แนะวิธีรักษา
ห่วงพฤติกรรมเลียนแบบ "กินเนื้อตุ๊กแก" แนะกินเนื้อหมู ไก่ ได้ประโยชน์ดีกว่า