"หูด" จากไวรัส HPV เป็นได้ทุกเพศทุกวัย หายได้ถ้ารักษาอย่างถูกต้อง
หูด เกิดจากไวรัส HPV สามารถหายขาดได้ ควรรีบพบแพทย์เมื่อพบตุ่มนูนที่น่าสงสัยเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ
หูดเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งเกิดจากเชื้อไวรัส ลักษณะของรอยโรคหูดโดยทั่ว ๆ ไปมักจะเห็นเป็นตุ่มแข็งมักอยู่กันเป็นกลุ่มมีขนาดได้ต่าง ๆ กันตั้งแต่ขนาดเล็กเพียงไม่กี่มิลลิเมตรไปจนถึงขนาดใหญ่เป็นเซนติเมตร เมื่อเราผ่านหน้าตัดของตุ่มแข็งนี้ออกจะเห็นว่ามีจุดเลือดออกเล็ก ๆ ของเส้นเลือดที่มาเลี้ยงหูด ตำแหน่งที่มักจะพบได้บ่อย ๆ เช่น มือ เท้า ส่วนที่หน้ามักพบเป็นหูดเม็ดแบน ๆ เล็ก ๆ เป็นจำนวนมากซึ่งจะพบในเด็กได้บ่อย
วัคซีน HPV ผู้ชายก็ฉีดได้ ช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อก่อโรคมะเร็ง
ตกขาวผิดปกติ อาการเตือน "มะเร็งปากมดลูก" ที่ไม่ควรละเลย
หูดเกิดจาก
เชื้อไวรัสฮิวแมนแปปิโลมาไวรัส (Human papillomavirus) หรือเอชพีวี (HPV) การติดเชื้อเอชพีวีเป็นสิ่งที่พบได้โดยทั่วไป โดยเชื้อ ไวรัสเอชพีวีมีอยู่หลายชนิดและมีบางชนิดที่ทำให้เกิดหูด
หูดติดต่อได้อย่างไร ?
หูดติดต่อได้โดยการสัมผัส เมื่อผิวหนังแตกเป็นแผล หรือมีรอยถลอกจะทำให้เชื้อไวรัสสามารถแทรกตัวลงไปได้ง่ายขึ้น และใช้เวลาแบ่งตัวอยู่หลายเดือนกว่าเราจะเห็นหูดเป็นเม็ด ๆ ได้ด้วยตาเปล่า ในคนบางกลุ่มมีแนวโน้มที่จะติดหูดได้ง่ายกว่าปกติ รวมทั้งในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันลดลงเช่นในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
วัคซีนตามช่วงวัยสำหรับ "เด็ก" เสริมภูมิคุ้มกัน สุขภาพดีห่างไกลโรค
ชนิดของหูด
- หูดธรรมดา (Common Warts) ลักษณะของหูดชนิดนี้จะเป็นตุ่มแข็งที่มีผิวขรุขระ พบบ่อยบริเวณแขน เข่า และบริเวณอื่น ๆ
- หูดฝ่ามือฝ่าเท้า (Palmoplantar Warts) พบได้ที่บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า
- หูดชนิดแบน (Flat Warts) หูดชนิดนี้มีลักษณะเป็นเม็ดเล็ก มีผิวเรียบ
- หูดหงอนไก่ (Genital Warts, Condyloma Acuminatum) พบบริเวณอวัยวะเพศหรือบริเวณก้น โดยหูดชนิดนี้ติดต่อได้ง่ายทางเพศสัมพันธ์
อาการแบบไหนที่ควรปรึกษาแพทย์
- เมื่อไม่แน่ใจว่าลักษณะที่เกิดขึ้นเป็นตุ่ม และที่เป็นคือหูดหรือไม่
- เมื่อรักษาหูดด้วยตัวเองที่บ้านแล้วไม่หาย ควรให้แพทย์ตรวจเพื่อยืนยันว่าตุ่มนั้นเป็นหูด ไม่ใช่มะเร็งหรือโรคผิวหนังชนิดอื่น
- เมื่ออยากจะรักษาหูดเองที่บ้าน แต่ไม่แน่ใจว่าควรจะรักษาด้วยวิธีไหน
- เมื่อมีเลือดออกจากหูด และหูดขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
- เมื่อเข้ารับการรักษาหูดและมีอาการผิวหนังอักเสบติดเชื้อ เช่น ผื่นแดง มีความรู้สึกปวด มีหนองบริเวณที่รักษา ในผู้ป่วยบางคนผื่นแดงและอาการปวดเป็นเรื่องปกติหลังการรักษา ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อทำความเข้าใจถึงผลข้างเคียงของการรักษา
“มะเร็งปากมดลูก” ภัยร้ายที่ป้องกันได้ ด้วยการฉีดวัคซีน HPV
วิธีรักษาโรคหูด
- การทายา เป็นยาที่มีส่วนผสมของกรดซาลิซิลิก กรดแลคติก กรดไตรคลออะซิติก ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา ไม่ควรซื้อยามาทาเอง
- การจี้ด้วยความเย็นจากไนโตรเจนเหลว (Cryotherapy) ผู้ป่วยจะรู้สึกแสบและเจ็บ ระหว่างถูกจี้ หลังจี้แผลอาจพองเป็นตุ่มน้ำ แผลจะค่อย ๆ ยุบแห้งตะสะเก็ดและหายได้เอง แต่อาจต้องจี้หลายครั้งจนกว่าจะหายขาด
- การจี้ด้วยไฟฟ้า เป็นการทำลายตุ่มหูดด้วยความร้อน สามารถทำลายหูดได้เด็ดขาดในครั้งเดียว หรือไม่กี่ครั้ง แต่อาจมีแผลเป็นได้
- การผ่าตัด เป็นการผ่าตัดเอาก้อนหูดออก วิธีนี้ใช้ในกรณีที่รักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล
- การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) จะใช้วิธีทำหรือฉีดสารบางชนิดไปยังบริเวณหูด เพื่อกระตุ้นภูมิของร่างกายให้มาทำลายหูด ซึ่งวิธีนี้มักใช้กับผู้ป่วยรายที่มีหูดจำนวนมากหรือใช้ในรายที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ
หูดหายขาดหรือไม่ ?
หูดสามารถหายขาดได้ แต่ขณะเดียวกันก็อาจติดซ้ำได้อีก หรืออาจเกิดใหม่ได้จากการที่เชื้อไวรัสเดิมยังไม่หมด ดังนั้นจึงควรรีบมารับการรักษาตั้งแต่เม็ดเล็ก ๆ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก โรงพยาบาลกรุงเทพ, ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล