วิธีดูแล“คุณแม่หลังคลอด” อุทาหรณ์แม่วูบขณะอาบน้ำให้ลูกก่อนเด็กจมน้ำในกะละมัง
จากเหตุสลดแม่เผลอวูบหลับขณะอาบน้ำให้ลูกสาววัย 10 วัน จนเด็กเสียชีวิต การดูแลตัวเองทั้งด้านจิตใจและร่างกายจึงสำคัญเพราะปกติทุกอย่างจะเข้าที่ใน 6-8 สัปดาห์
จากกรณี เหตุสลดที่จังหวัดตรัง มีเด็กหญิงวัย 10 วัน จมน้ำในกะละมังหลังผู้เป็นแม่วูบหมดสติขณะอาบน้ำให้ลูก รู้สึกตัวอีกครั้ง จึงรีบลุกไปดูลูกพบว่านอนตะแคงแน่นิ่งอยู่ในกะละมังแล้ว จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ โดยผู้เป็นแม่ยอมรับว่า วันนั้นไปส่งสามีไปทหารอากาศร้อนมาก แถมตนเพิ่งคลอดลูกมาอาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะทำให้รู้สึกจะหน้ามืดตลอดเวลาซึ่งตนและครอบครัวเสียใจและไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอยากให้เรื่องดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์สำหรับคุณแม่ทุกคนด้วย
อยากมีลูก! ต้องเลี่ยง 5 ปัจจัยเสี่ยง ก่อนเข้าข่าย "ภาวะมีบุตรยาก"
ข้อควรรู้เมื่อเกิด "แผลในผู้ป่วยเบาหวาน" เหตุผลที่รักษายากเสี่ยงลุกลาม
“เสริมหน้าอก” อย่างปลอดภัยเพื่อสรีระในฝันผ่านการคัดกรองมะเร็งเต้านม
ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีข่าวเด็กเล็กจมน้ำในกะละมังหลายต่อหลายเคส ซึ่งสาเหตุการจมน้ำและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป โดยการจมน้ำในกะละมังอาบน้ำพบเป็นส่วนใหญ่ในเด็กทารก 0-1 ปี แม้ว่าระดับน้ำแค่สะดือเด็กในท่านั่งก็ตามทีมข่าวพีพีทีวีนิวมีเดีย ได้ทำการรวบรวมแนวทางการดูแลตัวเองหลังคลอดที่คุณแม่ต้องรู้เป็นผลดีทั้งตัวของคุณแม่และลูกน้อยนำไปปรับใช้เพื่อป้องกันเหตุสลดซึ่งปกติแล้วสภาพร่างกายของคุณแม่หลังคลอดจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 6-8 สัปดาห์ และมีหลายเรื่องที่ต้องปรับตัวด้วยเช่นกัน ทั้งเรื่องของ ...
- จิตใจสำคัญที่สุด หลังคลอดปริมาณฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเกิดการอ่อนเพลียจากการคลอด กังวลใจกับสรีระของตนเอง และการเลี้ยงลูก จึงอาจทำให้รู้สึกเครียด,หงุดหงิด หรือเกิด “ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด” ได้ ดังนั้น คุณพ่อจึงหรือคนใกล้ชิดจึงเป็นบุคคลสำคัญ หากได้ช่วยแบ่งเบาภาระในการเลี้ยงดูบุตร เพื่อให้คนเป็นแม่รู้สึกผ่อนคลายและได้รู้สึกได้รับความรัก
- ด้านร่างกาย
- การดูแลแผล แผลฝีเย็บ ปกติแล้วคุณหมอจะเย็บด้วยไหมละลาย ซึ่งหลังคลอดประมาณ 7 วันแผลก็จะหาย แต่อาจจะรู้สึกเจ็บนานประมาณ 2 สัปดาห์ การทำความสะอาดสามารถใช้น้ำและสบู่ล้างจากด้านหน้าไปด้านหลัง และซับให้แห้งทันที ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดหรืออาบน้ำในอ่าง
- กรณีคุณแม่เป็นริดสีดวงทวาร หากมีอาการปวดอาจจะประคบด้วยถุงน้ำแข็ง ใช้ครีมหรือยาเหน็บตามแพทย์สั่ง ดื่มน้ำและรับประทานผัก ผลไม้ที่มีกากใยสูง เพื่อลดอาการท้องผูก
แผลผ่าตัด คุณหมอจะเย็บด้วยไหมละลาย ไม่ต้องตัดไหม ปิดไว้ด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ คุณแม่สามารถอาบน้ำได้ แต่ถ้าสังเกตว่ามีน้ำซึมเข้าแผล ให้เปลี่ยนพลาสเตอร์ปิดแผลใหม่ทันที แผลจะหายในเวลาประมาณ 7 วัน หากเจ็บแผลขณะเคลื่อนไหว คุณแม่อาจจะใช้ผ้ารัดหน้าท้องช่วยพยุงไว้ จะช่วยให้รู้สึกสบายขึ้น - น้ำคาวปลา ในช่วง 3 วันแรกจะมีสีแดงเข้ม จากนั้นสีจะจางลงเรื่อยๆ คล้ายกับสีน้ำล้างเนื้อ แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นมูกสีเหลืองๆ ตามปกติจะมีอยู่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ควรทำความสะอาดด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งหลังการปัสสาวะหรืออุจจาระ และเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ
- การฟื้นตัวของมดลูก คนทั่วไปเรียกว่ามดลูกเข้าอู่ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ หากมีอาการปวดมดลูก สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
- การดูแลเต้านมโดยทั่วไปคุณแม่จะมีขนาดของเต้านมที่ใหญ่ขึ้น และมีอาการคัดตึงในวันที่ 2-3 หลังคลอด ซึ่งเกิดจากภาวะที่ต่อมน้ำนมเริ่มผลิตน้ำนม หากมีอาการนมคัดแต่ยังไม่มีน้ำนม ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบเต้านม และทานยาแก้ปวดได้พยายามให้ลูกดูดนมบ่อยๆ เพื่อกระตุ้นให้มีการสร้างน้ำนมเร็วขึ้น หากมีน้ำนมไหลแล้ว ให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบเต้านมก่อนให้นมลูก ก็จะช่วยให้การไหลเวียนเลือดบริเวณเต้านมดีขึ้น ใช้สำลีชุบน้ำต้มสุกเช็ดทำความสะอาดหัวนมและลานนมทุกครั้ง ทั้งก่อนและหลังให้นมลูก
- การรับประทานอาหาร
คุณแม่ควรกินอาหารครบ 5 หมู่ เพราะต้องใช้พลังงานในการฟื้นฟูร่างกายของคุณแม่เองและผลิตน้ำนมสำหรับเลี้ยงลูก- โดยเฉพาะ ประเภท ผัก,ผลไม้,เนื้อสัตว์,ไข่,นม
- ลดอาหารประเภทแป้ง ไขมัน และของหมักดอง งดเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
- การรับประทานยาควรได้รับคำแนะนำจากคุณหมอ เพราะยาบางชนิดหลั่งออกทางน้ำนมได้ โดยเฉพาะในช่วง 1 สัปดาห์แรก ควรปรึกษาแพทย์ว่าต้องงดยาใดบ้าง
- การพักผ่อน
คุณแม่ควรพักผ่อนเต็มที่ จัดสรรเวลาในการทำกิจกรรมต่างๆ ให้เหมาะสมควรมีเวลางีบหลับพักผ่อนขณะลูกหลับ เพื่อไม่ให้คุณแม่เหนื่อยล้าหรืออ่อนเพลียเกินไป
- ไม่ควรยกของที่มีน้ำหนักมากกว่าน้ำหนักของทารก
- ไม่ควรออกแรงเบ่งมากๆ หรือนานๆ
- ไม่ควรเดินขึ้น-ลงบันไดบ่อยๆ
- ไม่ควรขับรถโดยไม่จำเป็น
- ไม่ควรออกกำลังกายหักโหม ทำได้เฉพาะท่ากายบริหารเบาๆ
การมีเพศสัมพันธ์
ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 4-6 สัปดาห์แรกหลังคลอด เนื่องจากคุณแม่อาจมีความรู้สึกทางเพศลดลงเนื่องจากความอ่อนเพลีย กังวล และความไม่สบายกาย หรือเจ็บแผล หรือจนกว่าจะได้รับการตรวจสุขภาพหลังคลอด และวางแผนคุมกำเนิดแล้ว
การตรวจหลังคลอด
หลังคลอดแพทย์จะทำการให้มาตรวจสุขภาพ 4-6 สัปดาห์หลังคลอด เช่น
- ตรวจความสมบูรณ์ของร่างกาย
- ตรวจดูสภาพของปากมดลูกและอวัยวะภายในอุ้งเชิงกราน หรือแผลผ่าตัดหน้าท้องกรณีผ่าตัดคลอด
- ตรวจความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก
- ให้คำแนะนำเรื่องการวางแผนครอบครัว และคุมกำเนิดที่เหมาะสมในช่วงหลังคลอด
สัญญาณเตือน! หลอดเลือดสมองตีบ รู้ก่อนอัมพฤกษ์อัมพาต
อาการผิดปกติหลังคลอด ที่ควรรีบมาพบแพทย์
- มีไข้สูงโดยไม่ทราบสาเหตุ
- น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น หรือมีสีแดงสดตลอด 15 วันหลังคลอด
- ปวดท้องน้อย เจ็บปวด หรือแสบขัดเวลาปัสสาวะ
- ปวดศีรษะรุนแรง
- เต้านมบวมแดง อักเสบ หัวนมแตกเป็นแผล
- แผลฝีเย็บ หรือแผลผ่าตัดอักเสบ บวม แดง หรือมีหนอง
อย่างไรก็ตาม ควรให้ความสำคัญกับการวางแผนครอบครัวและการดูแลตัวเองหลังคลอดเพื่อป้องกันเหตุสลดที่ไม่คาดคิด
ข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล,rakluke